[SNH] CH03
+---------------------------------------------------------+
บทที่ 3
รับเข้าองค์กร
+---------------------------------------------------------+
...เวลาไม่ดื้อก็น่ารักดีเหมือนกันนะ
เด็กนี่น่ะ...
+------------------------+ SNH +------------------------+
“ฉันว่าแล้วว่านายต้องมา”
นั่นเป็นประโยคแรกที่ผมได้ยินจากปากคุณลุงหน้าลิง เอ่อ
ชื่ออะไรนะ? เจวายพี? น่าจะใช่นะ...
แล้วทำไมผมถึงต้องโดนจับมานั่งกลางห้องโดนไฟสาดหน้าเหมือนผู้ต้องหาคดีร้ายแรงแบบนี้ล่ะครับ!!!
ย้อนไปหลายนาทีก่อนผมถูกมาร์คจูงมือมาที่คลับอีกครั้ง
พวกเราต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรตลอดทาง มาร์คเป็นคนเงียบๆอยู่แล้ว
แต่ผมน่ะเขินจนพูดไม่ออก แจ็คสันเป็นคนแมนๆครับ เขินก็บอกเขิน ฮุฮุ
(มันน่าอวดไหมถาม?)
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เดินดีๆก็ได้ป่ะวะ จะจับมือจูงเหมือนเด็กทำไม
แต่ก็นั่นแหล่ะ มือมาร์คก็อุ่นดี...
พวกเราใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีในการเดินมาถึงคลับ
ผมเพิ่งรู้นะว่าคลับนี้มันใกล้มหาลัยผมเอามากๆ
ไหนบอกสถานบันเทิงไกลสถานศึกษาไงครับประเทศไทย? แต่วันนี้แปลกๆแฮะ
ขนาดยืนอยู่หน้าร้านยังได้ยินเจี้ยวจ้าวดังมาจากด้านในเลย
“วันนี้มีอะไรเหรอ ทำไมวันนี้คนเยอะ”
“มารับนายมั้ง”มาร์คตอบเรียบๆ
ใช้มือด้านที่ว่างอยู่ผลักประตูคลับเข้าไป
เสียงพูดคุยคละเคล้ากับเสียงดนตรีจากด้านในทำเอาผมประหม่านิดหน่อย
“พวกเราๆ มาร์คมาแล้ว อะโหเฮะ จับมือกันมาด้วย
กิ๊วๆๆๆ”เสียงแซวตามมาด้วยลูกคู่โห่ฮิ้วอีกเป็นพรวนทำเอาผมหน้าแดง
ถึงหวังจะหน้าหนาแต่แซวเป็นหมู่คณะแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ผมปล่อยมือมาร์คทันที
อีกคนหันมามองหน้าผมนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ผมมองไปรอบๆก็เห็นว่าวันนี้คลับคนเยอะมากจริงๆ
ส่วนใหญ่อายุมากกว่าผมทั้งนั้นเลย ดูได้จากหน้าตากับการแต่งตัวอ่ะนะ
(ลุงป้าค่ายเจวายพี – ตบไหมหวังจะได้จบ =*= )
“แจ็คสัน
ทางนี้ๆ”จูเนียร์เรียกผมที่ยืนมองซ้ายมองขวาไม่รู้จะทำตัวยังไงให้เดินไปหากลุ่ม GOT ส่วนมาร์คนั่นหายแว๊บไปตั้งแต่ผมปล่อยมือเขาแล้ว
สงสัยไปทำธุระส่วนตัวล่ะมั้ง
บนโต๊ะมีจูเนียร์กับเจบีนั่งข้างกัน
ถัดไปคือยูคยอมและแบมแบม
กับเด็กตี๋หน้าตาน่ารักแต่ท่าทางกวนบาทาใช่น้อยนั่งถัดจากแบมแบม
“ผมชื่อยองแจฮะ”
“อ้อ ยองแจ สวัสดีนะ ฉันชื่อแจ็คสันหวัง”
“ผมรู้แล้วล่ะ แจ๊คสันหวัง สัญชาติฮ่องกง เกิดที่ฮ่องกง
เป็นนักกีฬาฟันดาบเยาวชนทีมชาติฮ่องกง
รักฮ่องกงมากขนาดเสื้อผ้ายังต้องมีหมายเลขประเทศฮ่องกง
ไม่ทราบว่าพี่ชอบฮ่องกงมากขนาดนี้สนใจไปเป็นตำรวจไหมครับ”เด็กนั่นร่ายประวัติใส่ผมจนผมมึนงง
“เอ่อ อะไรนะ”
“ก็ห้องกรงไง”
“...”
กา~ กา~ กา~
เหมือนได้ยินเสียงกาดังขึ้นมาเป็นแบคกราวด์ด้านหลัง
เมื่อกี้ยองแจเล่นมุขใช่ไหม? คือตลกดีนะ ฮะฮะฮะ (หัวเราะแห้งเป็นกำลังใจ)
“อย่าเล่นมุกอะไรอย่างนี้อีกนะยองแจ พี่ขอล่ะ
เมื่อกี้เล่นเอาซะหนาวเลย”เจบีเอ่ยกับรุ่นน้องเชิงขอร้อง ยองแจยักไหล่แบบ ไอ
ด๊อนท์ แคร์ แล้วหันไปจิบน้ำผมไม้ในมือตัวเองต่อ
“นี่พี่แจ็คสันเรียนอยู่มหาลัยแล้วเหรอ?
งั้นผมก็ต้องเรียกว่าพี่สินะ”แบมแบมพูดกับผมเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ เจ้าเด็กนั่นเบิกตาโตมองผมอย่างแปลกใจ
ทำไม? หวังหน้าเด็กอ่ะเด้... แต่ยังไม่ทันได้ภูมิใจในตัวเองนาน
เจ้าเด็กเกรียนผมทองก็สวนขึ้นมาก่อราวกับจับทางความคิดผมได้ “เห็นนิสัยเด็กๆ
เลยนึกว่ารุ่นเดียวกับผมซะอีก”
…นิสัยเด็ก เลยคิดว่าอายุเท่ากัน อื้มมมมมม
ซึ้งเลยแบมแบม (เข่นเคี่ยวเคี้ยวฟันกรอดๆ)...
“...”ผมขี้เกียจตอบโต้เลยไม่ได้พูดอะไร เดินไปนั่งข้างจูเนียร์ที่ใส่ชุดนักเรียนม.ปลายชื่อดัง
ดูจากดาวบนปกเสื้อจูเนียร์อยู่ ม.หก ก็เท่ากับว่าเป็นน้องเขาหนึ่งปี
หันไปมองแบมๆที่ใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนเดียวกันนั่นก็ ม.4
แต่สายตากลับมาสะดุดหยุดกึ๊กอยู่ที่ยูคยอมที่ยังใส่ชุดนักเรียนม.ปลาย แถมยัง ม.4
เท่าแบมแบมอีก
“ยูคยอม
นายซ้ำชั้นมากี่ปีน่ะ?”ด้วยความที่นิสัยปากเร็วใจร้อนเผลอถามคำถามนี้ออกไป
คนบนโต๊ะชะงักกิจกรรมทั้งหมด ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
ยกเว้นผมที่เป็นคนถามและยูคยอมที่ทำหน้ายู่
“พี่แจ็คสันอ่า~ ผมเรียนตามเกณฑ์นะแค่ผมตัวสูงเอง
ทำไมต้องว่าผมแบบนี้ด้วยอ่ะ”เจ้าเด็กยักษ์เริ่มเข้าบทงอแง
ยิ่งดูงอนเข้าไปใหญ่เมื่อ (ว่าที่) แฟนอย่างแบมแบมก็ยังหัวเราะไปกับคนอื่นๆด้วย
“อ้าว ก็ฉันไม่รู้นี่”
...หวังไม่ได้ตั้งจะ หวังแค่ใสซื่อ 0^0…
“เอาน่ายูคยอม
นายน่าจะชินตั้งแต่โดนอูยองเรียกว่าพี่แล้วนะ”เสียงทุ้มน่าฟังดังแทรกขึ้นมากลางวงสนทนา
ผมหันไปมองคนมาใหม่ที่อยู่ในชุดนักศึกษาเหมือนผม แต่ป้ายชื่อสีดำนั่นบ่งบอกว่าเป็นปีสูงแล้ว
ตัวของเขาสูงใหญ่ดูแข็งแรง ใบหน้าก็คมเข้มดูผ่านๆเหมือนเป็นลูกครึ่งอิตาลี ผิวขาว
แล้วที่สำคัญ...นั่นจมูกหรือสันเขื่อน?
“พี่ชานซองอ่า”ยูคยอมโวยวายเบ้ปากออกแนวน้อยใจ
จนแบมแบมหยุดหัวเราะดึงตัวคนตัวสูงมากอดมาอ้อนกลายเป็นโลกใบนี้มีเพียงสองคนไป
คนอื่นเลยหันไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อ
“นายน่ะชื่อแจ๊คสันหวังใช่ไหม
ฉันเคยได้ยินชื่อนายตอนอยู่มหาลัย นายเป็นนักกีฬาฟันดาบทีมชาติฮ่องกงมาก่อนสินะ”
“โหยยยพี่
ผมแค่รุ่นเยาวชนเอง”...แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่าเป็นนักกีฬาทีมชาติอ่ะนะ 55555
“นายนี่ตลกดีนะ”จู่ๆพี่ชานซองก็หัวเราะเอิ้กอ๊ากปากกว้างแล้วเดินกลับไปโต๊ะตัวเองที่มีแต่คนตัวสูงๆหุ่นดีๆที่อยู่อีกฝั่งของร้าน
“นี่ๆ
พี่กลุ่มนั้นก็เป็นนักล่าเหรอ?”ผมหันไปถามจูเนียร์ที่นั่งอยู่ติดกัน
จูเนียร์หันไปมองตามนิ้วที่ผมชี้ก่อนพยักหน้า
“นั่นพวกพี่ๆ 2PM น่ะ เป็นขาลุยอันดับหนึ่งขององค์กรเลย
เก่งเอามากๆด้วย ส่วนใหญ่เราก็ร่วมกันทำงานกับพี่ๆเขานี่แหล่ะ
พอดีมาสายลุยเหมือนกัน”
“อืมมมม”ผมลากเสียงรับรู้ แต่จู่ๆไปทั้งหมดก็ดับวูบ
ทุกสิ่งตกอยู่ในความมืด ทุกอย่างเงียบสนิทจนผมรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติ
เผลอกรีดร้องลั่นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกยกพาดบ่าพาเดินดุ่มๆไปไหนก็ไม่รู้
แทบอ้วกเมื่อถูกจับเหวี่ยงลงมานั่งกับเก้าอี้
“เฮ้ยๆ นี่เกิดอะไรขึ้นน่ะ”
“นายนี่นะ
เงียบๆหน่อยเถอะน่า”เสียงของเจบีดังแหวกความเงียบขึ้นมา
ก่อนที่แสงสปอร์ทไลท์จะเปิดขึ้นสาดใส่หน้าผมเต็มๆ
ใช่...เต็มหน้า...เต็มตากูด้วยเนี่ยยยยยยยยย ตาโผมมมมม!!!
ขนาดหลับตายังรู้สึกดวงตาพร่าเลือน โอ้โห
ถ้าตากูบอดใครจะรับผิดชอบบบบ!!!
“ไปสาดไฟใส่หน้าน้องเขา ถ้าตาบอดขึ้นมาจะทำยังไงฮะไอ้อุ่น!”
“โอ๊ยๆ ขอโทษๆ อย่าตีผมดิ ผมปรับให้แล้วนี่ไง”
รู้สึกได้ว่าแสงไฟถูกหรี่และเคลื่อนย้ายตำแหน่งเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นตาผมก็ยังพร่าอยู่ น้ำตาไหลเลยครับ แสบตาชิบหาย T_T
จู่ๆมือผมก็สัมผัสได้ถึงความร้อนจากมือใครบางคนที่แสนคุ้นเคย
เพียงแว๊บเดียวความแสบที่ตาก็ทุเลาลง จนสามารถเปิดเปลือกตาขึ้นมามองรอบข้างได้ตามปกติ
แอบสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกสายตาหลายสิบคู่จ้องมองมาจากทุกสารทิศ
ถึงจะไม่ใช่พวกเงาจันทร์แต่มายืนล้อมมองหน้าผมคนเดียวแบบนี้ก็น่ากลัวไม่แพ้กันหรอกนะ
“ฉันว่าแล้วว่านายต้องมา”
ใครบางคนพูดกับผม ก่อนเจ้าของเสียงจะเดินออกมาแสดงตัว
ชายกลางคนที่ผมปรามาสว่าหน้าแกเหมือนลิง
วันนี้ใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองปลดกระดุมโชว์แผงอกล่ำกับกางเกงลายพร้อยสีเขียวใบตอง
เอิ่ม ยังไงผมก็ไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าผมนี้เป็นหัวหน้าองค์กรลับของตำรวจโลก =*=
“นายคงได้ยินเรื่องราวจากเจบีและจูเนียร์แล้วสินะ”ผมพยักหน้ารับงงๆ
แล้วเกี่ยวอะไรกับที่ผมโดนจับมานั่งกลางวงล้อมโดนไฟสาดหน้าเหมือนผู้ต้องหาโดนซักฟอกคดีร้ายแรงอยู่แบบนี้ด้วยล่ะครับ
“นักล่าใช่ว่าจะเป็นกันง่ายๆ ฉันจะทดสอบเธอก่อนที่จะได้เข้าองค์กรเรา”
“ทดสอบ?”
“อย่างแรก...ลุกขึ้นหมุนตัวสิ”
ถึงจะงงแต่ก็ยังยืนขึ้นแล้วหมุนตัวให้ดู
หมุนไปก็มองหามาร์คไป แต่มองยังไงก็ไม่เห็นตัวแฮะ เห้ย! เวลาแบบนี้คู่กูหายไปไหน
ถ้าเรียกแล้วจะมาหาเหมือนตอนเย็นนั่นป่ะ? เวลานี้กูก็ต้องการมึงนะเฮ้ย! (กรุณาอย่าคิดไปไกล) หนึ่งรอบจบพร้อมคำสั่งใหม่ที่ทำเอางงกว่าเดิม
“ความสามารถพิเศษ”
“เอ่อ
ฟันดาบครับ”ตอบอะไรที่น่าจะเข้าเค้าความสามารถพิเศษให้มากที่สุด
กระพริบตาปริบๆตอนยกมือรับของที่ถูกโยนมาจากเจวายพี ก้มลงมองของในมือก็ยิ่งแปลกใจ
“ตลับแป้ง???”
จะให้กูเอาตลับแป้งมาแต่งหน้าโชว์เหรอครับ? รอฟังคำสั่งต่อไปของเจวายพีแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีคำใดหลุดออกมา
แจ็คสันหวังผู้ที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้มาพบกับเครื่องแต่งหน้าของผู้หญิงจึงได้กดแง้มตลับแป้งออกช้าๆ
ความแปลกใจระรอกสองโถมเข้าหาอีกครั้งเมื่อในตลับนั้นไม่ใช่แป้งแต่เป็นปุ่มกดเล็กๆ
เขาไม่รีรอที่จะกดปุ่มค้างเอาไว้ ได้ยินเสียงลั่นกริ๊ก
ก่อนวินาทีต่อมาของมีคมปลายแหลมยาวที่เรียกว่าดาบ ก็พุ่งออกมาจากตลับ ตกใจจนเผลอโยนดาบนั่นทิ้ง
...ถ้าเมื่อกี้เผลอกันด้านผิดมันจะเสียบเข้าตัวกูไหม?...คิดแค่นี้ในใจก็เสียววาบ
เหลือบตามองเจวายพีที่ยังมีท่าทีนิ่งเงียบไม่มีปฏิกิริยาอะไรให้เขาได้สบายใจขึ้นเลยสักนิด
“เต้นเพลงเกิร์ลกรุ๊ปสักเพลงสิ ร้องด้วยนะ”
เหอ?????????????????????? อัศเจรีย์ร้อยตัวคงไม่พ๊อ~ ให้กูเต้นเพื่อ!!!
“เร็วๆสิ”น่ะ มีเร่งด้วย
สมองพยายามเค้นเอ็มวีเกิร์ลกรุ๊ปที่เคยผ่านตาเข้ามาในสมอง เอาเพลงนี้ก็ได้วะ! สูดลมหายใจเรียกความกล้ามาไว้ที่หน้าที่อาจปริได้หากไม่ด้านพอ
มือซ้ายยกขึ้นวางที่ลำคอ แล้วร้องเพลงเท่าที่ตัวเองจะจำได้...
나만 몰랐었던
something
นามัน มลลัทซอทดอน something
분명히 느껴져 must be something
บุนมยองกี นึกกยอจยอ must be something
뻔한 너의 거짓말 그만 여기까지만 nothing
ปอนฮัน นอเอ กอจิทมัล กึมมัน ยอกิกกาจีมัน nothing
it's something stop it~ no uh~
นามัน มลลัทซอทดอน something
분명히 느껴져 must be something
บุนมยองกี นึกกยอจยอ must be something
뻔한 너의 거짓말 그만 여기까지만 nothing
ปอนฮัน นอเอ กอจิทมัล กึมมัน ยอกิกกาจีมัน nothing
it's something stop it~ no uh~
เครดิต - Something – Girl’s Day
ร้องยังไม่ทันจบเต้นยังไม่ทันผ่านท่อนแรกเสียงหัวเราะก๊ากของบรรดาพี่ๆที่ล้อมอยู่รายรอบโดยเฉพาะตัวเจวายพีเองที่หัวเราะชอบใจ
ยกมือขึ้นมาเป็นสัญญาณบอกให้หยุด แจ๊คสันหยุดเต้นด้วยใบหน้าที่ยังงงงวย
“นายนี่มันจี้อย่างที่เจบีบอกไว้จริงๆ ผ่าน! นายผ่านแล้ว”เจวายพีประกาศเสียงดัง
ตามมาด้วยเสียงไชโยโห่ร้องแสดงความยินดี
คนที่มุงกันอยู่กรูเข้ามาจับเข้ามากอดเขากันใหญ่จากที่เบลออยู่แล้วยิ่งเบลอเข้าไปใหญ่
ไฟในคลับถูกเปิดขึ้นมาอีกครั้งทำให้เห็นว่ามาร์คยืนอยู่ด้านหลังเจวายพีพอดี
ทำให้เมื่อกี้มองเขามองไม่เห็นสินะ
“อ้อ แล้วนายเป็นคู่มาร์คสินะ ย้ายไปอยู่ด้วยกันให้เรียบร้อยด้วยล่ะ”
“เหอออออ!?”
...อย่าเพิ่ง กูยังงงอยู่ ยังจัดลำดับความคิดไม่ถูก
อะไรคือย้ายไปอยู่ด้วยกัน อาร๊ายยยย!!!...
+------------------------+ SNH
+------------------------+
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น