[SF] Treasure [MarkSon]
TITLE:
Treasure
COUPLE:
MARK x JACKSON [MarkSon]
RATE:
PG-18
WORD:
3,652
BY:
Silverfeather29 /@silverfeather29/
-------------------------------------------------
Treasure
วันนี้ GOT7 ไม่มีงาน แต่ภายในหอกลับเงียบเหงา
เจเจโปรเจคออกไปบริษัทตั้งแต่เช้า ยองแจยังนอนอุตุไม่ตื่นอยู่ในห้อง
ส่วนมังเน่ไลท์ออกไปเที่ยวกันตั้งแต่เช้า
เหลือเพียงแจ๊คสันและมาร์คที่เดินว่อนไปมาอยู่ในหอพัก
แจ๊คสันกำลังนั่งดื่มด่ำกับเพลงจังหวะหนักๆเท่ๆของรุ่นพี่ต่างค่ายคนโปรดบนโซฟาในห้องนั่งเล่นรวม
มือก็สไลด์หน้าจอสมาร์ทโฟนเล่น
เมื่อไม่มีคนให้คุยด้วยคนที่มักจะส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายตลอดเวลาก็ได้มาสงบนิ่งก็ตอนนี้แหล่ะ
แต่จู่ๆพื้นที่โซฟาข้างตัวก็ถูกจับจองจากรูมเมทห้องที่ไม่ได้ไปไหนเหมือนกัน
แจ๊คสันเหลืบตามองคนที่เพิ่งเปลี่ยนสีผมจากสีแดงจี๊ดมาเป็นสีน้ำตาลอ่อนแถมดัดจนหยิกแล้วกลับมาสนใจหน้าจอสมาร์ทโฟนเหมือนเดิม
บางทีก็อยากถามสไตล์ลิสนูน่าว่ามีปัญหากับหน้าตาของวงมากหรือไร
ตั้งแต่ตอนพี่คุณแล้วนะ แต่ยังไงก็เถอะ ทรงผมจะอุบาทขนาดไหนถ้าคนทำมันหน้าตาดีอะไรก็เหมาะไปหมดนั่นแหล่ะ
แล้วจะเบียดทำไม?
โซฟาตั้งยาวจะเอาแขนมาถูเขาเพื่อ ขยับก้นหนีก็ยังตามมาเบียดเขาอีก
ส่งสายดุไปให้ยังทำหน้านิ่งตอบกลับมาอีกนะ
ทนไม่ไหวถอดหูฟังออกเพื่อเคลียร์กับคนที่จู่ๆก็มากวนเขาแต่เช้าแบบนี้
“มาเบียดทำไม?”
“สนใจพี่หน่อย”
“หืม?...จู่ๆทำไมถึงเรียกตัวเองว่าพี่?
วันนี้กินยาเขย่าขวดรึเปล่า”
ถามแบบฉบับแจ๊คสันคนกวนตามปกตินะ
แต่ทำไมมาร์คทำคิ้วขมวดอย่างนั้นล่ะ?
“ที่จริงเราต้องเรียกพี่ว่าพี่
ไม่ใช่มาร์คเฉยๆ จริงไหม”
“แต่มาร์คก็ยอมให้ฉันเรียกตลอดนี่
จู่ๆทำไมถึงมาเคร่งอายุกันตอนนี้ล่ะ”ถามกลับงงๆ เรียกมาตั้งกี่ปีแล้ว
จะมาโกรธเอาตอนนี้มันไม่สายไปเรอะ
“เรียกให้ชินปาก
เดี๋ยวจะได้ใช้ไปตลอด”พูดแค่นั้นแล้วก็เดินเข้าไปในห้อง
ทิ้งให้แจ็คสันนั่งทำหน้างงๆอยู่คนเดียว เป็นอะไรล่ะนั่น?
ปกติเขาจะตามไปเซ้าซี้ถามอยู่หรอกนะ
แต่วันนี้วันนี้เกิดขี้เกียจกะทันหันเลยหันกลับมาสนใจหน้าจอสมาร์ทโฟนต่อ
แต่ก็โดนขัดความสุขอีกรอบเมื่อหมวกใบโปรดถูกสวมให้แบบไม่เต็มใจ
คราวนี้ตากลมมองคนทำตาเขียวปั๊ด
“จะกวนประสาทกันรึไง
วันนี้นายเป็นอะไรเนี่ย!”เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงแล้วลุกขึ้นโวยวาย
แต่มาร์คกลับทำหน้านิ่ง มือล้วงเสื้อคลุมยืนเต๊ะท่าเท่ห์ๆอยู่ตรงหน้า
แต่งตัวเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก
“ไปเดินเล่นกัน”
-_-
“เฮ้! นี่ฉันถามนายนะ” -“-
“บอกให้เรียกพี่” -_-
“อะไรของนายวะ!”
“พูดไม่เพราะเลย
ไปเถอะน่า”พูดจบก็คว้ามือเขาลากออกไปจากหอทั้งๆอย่างนั้น
Give me your, give me your, give me your
attention baby
I got to tell you a little something about yourself
You're wonderful, flawless, ooh you're a sexy lady
But you walk around here like you wanna be someone else
สนใจผมหน่อยสิที่รัก
ผมอยากบอกอะไรเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับตัวคุณน่ะ
คุณนั้นช่างงดงาม ไร้ที่ติ คุณช่างเซ็กซี่จริงๆ
แต่คุณเดินอยู่ตรงนี้เหมือนว่าอยากจะเป็นอย่างใครซักคน
I got to tell you a little something about yourself
You're wonderful, flawless, ooh you're a sexy lady
But you walk around here like you wanna be someone else
สนใจผมหน่อยสิที่รัก
ผมอยากบอกอะไรเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับตัวคุณน่ะ
คุณนั้นช่างงดงาม ไร้ที่ติ คุณช่างเซ็กซี่จริงๆ
แต่คุณเดินอยู่ตรงนี้เหมือนว่าอยากจะเป็นอย่างใครซักคน
“เลิกทำหน้าบูดได้แล้ว
เห็นแล้วมันไม่เจริญสายตาสักนิด”เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกับคนข้างตัวที่เดินทำหน้าไม่สบอารมณ์มาตลอดทาง
แจ๊คสันหันหน้าขวับ ส่งสายตาค้อนมาให้มันที
“แล้วลากฉันออกมาทำไม?
แค่มาเดินเล่นเนี่ยนะ!”
“เสียงดังทำไม
คนเขามองหมดแล้ว”เอ่ยปรามอีกคนเบาๆ
เมื่อคนแถวนั้นเริ่มหันมามองพวกเขาด้วยความสนใจแล้ว แม้ว่าพวกเขาเพิ่งจะเดบิว คนรู้จักอาจจะยังไม่เยอะ
แต่ก็ใช่ว่าไม่มีคนรู้จักพวกเขาอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้
“ให้ตายเถอะ
มาร์คต้วน มานี่เลย”แจ๊คสันไม่ใช่คนที่จะทนความสงสัยได้นาน
เช่นเดียวกับรู้ดีว่าตัวเองเป็นบุคคลสาธารณะ
เขาจับแขนคนอายุเยอะกว่าแวะเข้าร้านกาแฟข้างทางทันที
แจ๊คสันเลือกโต๊ะที่อยู่มุมอับสายตา
สั่งเอสเพรสโซ่เย็นให้มาร์คและลาเต้ไม่หวานมากให้ตัวเองอีกหนึ่งแก้ว
มาร์คนั่งท้าวคางมองดวงหน้าขาวที่มักมีรอยยิ้มอยู่เสมอกำลังทำหน้ายุ่งเหยิงแบบที่ตัวเขาอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้
ต่างจากแจ๊คสันที่แทบถอดหมวกมาฟาดหน้าคนกวนหน้าตายตรงหน้า
“ตกลงวันนี้เป็นอะไร
ทำไมทำตัวแปลกๆ”ถามด้วยใบหน้าที่คิดว่าจริงจังมากที่สุดในชีวิตแต่ชายผู้อิมพอร์ทมาจาก
LA
กลัวหัวเราะราวกับเขาทำหน้าตลกๆอยู่
“นี่!”
หากแท้ที่จริงแล้วมาร์คต้วนไม่ได้เงียบๆเรียบร้อยแต่เป็นคนกวนส้นหลบใน
แจ๊คสันหวังที่ทำตัวบ้าบอล้นๆอยู่ตลอดเวลาก็มีมุมขี้วีนแบบนี้เช่นกัน
“เรียกฉันว่าพี่ก่อน”
“เออๆ
พี่มาร์ค สรุปบอกผมได้ยังว่าวันนี้เป็นอะไร
ลากผมออกมาทำไม”ยอมง่ายดายเพราะความอยากรู้
ก่อนวินาทีต่อมาจะรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่พูดแบบนั้นออกไป...
“ก็แค่อยากมาเดตกับคนที่แอบชอบ”
“...” หน้าผมแดงไหม?
ทำไมรู้สึกแก้มร้อนๆ ฮรือออ หยอดเค้าทำไม >///<
มาร์คมองแก้มย้วยๆของคนตรงหน้าที่กำลังแดงระเรื่อด้วยความเอ็นดู
ริมฝีปากอิ่มแดงที่เด่นจากใบหน้าขาวแอบอมยิ้มมุมปากเล็กๆ
ใครเป็นคนบอกว่าแจ๊คสันหวังไม่น่ารักกันนะ?
“มาหยอดอะไร
ผมไม่ใช่ผู้หญิงของพี่นะ!”
“แต่นายเป็นคนน่ารักของพี่ไง”
“โอ๊ยยย
ต้วนอี้เอิน! พอเถอะ
ผมเขินจะตายแล้ว”ยกมือกุมหน้าที่รู้สึกร้อนจนเหมือนจะระเบิดได้ในเร็วๆนี้แล้วเอาหัวเขกโต๊ะเบาๆแก้ความเขิน
มาร์คหัวเราะร่าจนกระทั่งพนักงานเสิร์ฟยกกาแฟมาให้พวกเขาถึงได้หยุดนั่งพักกินกาแฟเงียบๆ
ต่างคนต่างตกอยู่ในภวังค์ความครุ่นคิดของตนเอง
ออกจากร้านกาแฟทั้งคู่ก็พุ่งเข้าใส่ร้านขายซีดี
แน่นอนว่ามุมที่ทั้งสองไปสงสถิตคือมุมเพลงฮิพพอพ แจ๊คสันกำลังเลือกดูเพลงของแทยัง
มือขาวพลิกซีดีไปมาปากอิ่มแดงก็ฮัมเพลงอารมณ์ดี ทั้งหมดอยู่ในสายตาของมาร์ค
จู่ๆก็เกิดรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแปลกๆ
ขายาวเดินเข้าไปหาคนตัวเตี้ยที่เงยหน้าขึ้นมามองเขา
“นายชอบพี่แทยังมากไหม”
“มาก”แจ๊คสันตอบแบบไม่ต้องคิดจนมาร์ครู้สึกว่าตัวเองคิ้วกระตุก
“ฉันอยากเป็นแบบเขา นายดูสิ เพลงพี่เขาดีมากเลยนะ
เร๊พเจ๋งมากเลย”เอ่ยชมออกหน้าออกตา ดวงตาพราวระยิบระยับสมเป็นแฟนบอยตัวพ่อของแทยัง
มาร์คแย่งซีดีที่คนตัวเตี้ยกำลังโฆษณาอย่างเต็มที่กลับเข้าที่เดิมด้วยใบหน้าเรียบเฉย
แล้วหยิบซีดีของวงตัวเองที่อยู่ไม่ไกลมาให้แจ๊คสัน
คนตัวเตี้ยมองซีดีสลับกับหน้าเขางงๆ
“นายที่เป็นนายมันก็เจ๋งอยู่แล้ว
ไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนใครให้เหนื่อยเลย”
“...///...”
“ไม่รู้เลยรึไงว่าเสียงนายตอนร้องเพลงมันเซ็กซี่ชะมัด”
“...///...”หน้าแดงต่อเนื่อง
เขินทั้งโดนชมต่อหน้า เขินทั้งสายตาของมาร์คที่มองมา เขินจนใจสั่นหมดแล้ว
I know that you don't know it, but you're fine,
so fine
Oh girl I'm gonna show you when you're mine, oh mine
ผมรู้ว่าคุณน่ะไม่รู้ตัวหรอก แต่คุณน่ะงดงามจริงๆ
ผมจะแสดงให้คุณเห็นเองเมื่อคุณมาเป็นของผม
Oh girl I'm gonna show you when you're mine, oh mine
ผมรู้ว่าคุณน่ะไม่รู้ตัวหรอก แต่คุณน่ะงดงามจริงๆ
ผมจะแสดงให้คุณเห็นเองเมื่อคุณมาเป็นของผม
พวกเขากลับมาถึงหอตอนเที่ยง
แจ๊คสันได้หมวกมาสองใบ สร้อยอีกหนึ่ง ในขณะที่มาร์คหิ้วหมวกมาใบเดียว
“อ้าว
ไปไหนมา”ลีดเลอร์ที่กลับมาแล้วส่งเสียงถามทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามาในห้อง
“ไปเดินเล่นนิดหน่อย
พี่เมเนเจอร์ว่ายังไงบ้าง”มาร์คถามกลับ ดันตัวแจ๊คสันให้เอาของเข้าไปเก็บ
ส่วนตัวเองคุยกับแจบอมต่อ
แจ๊คสันเอาของไปเก็บแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อกล้ามสีดำกางเกงขาสั้นสีเดียวกันออกมาจากห้อง
“โอ๊ะ...”พอเปิดประตูออกไปก็เจอกับยูคยอมและแบมแบมที่กลับมาพอดี
เจ้าน้องเล็กทั้งสองชะงักเล็กน้อย ก่อนยิ้มกว้างให้เขา
“พี่แจ๊คสันอยู่ที่หอตลอดเลยเหรอ
อ่ะ ผมซื้อไอติมมาฝาก”ยูคยอมถามพร้อมส่งแพ๊คเกจซองไอศกรีมรสโปรดของเขามาให้
มือขาวรีบตะครุบเอาไว้ ยิ้มกว้างให้น้องชายเหมือนเด็กๆ
“ไม่อ่ะ
เพิ่งกลับมา ขอบใจมากยูค”ตบบ่ากว้างของคนตัวสูง (กว่ามาก)
แล้วเดินแกะห่อไอศกรีมไปนั่งข้างมาร์คที่ยังคุยกับเจบีไม่เสร็จ
...ไอศกรีมเย็นๆในวันอากาศร้อนอบอ้าวนี่สวรรค์ชัดๆ...
ฟันขาวกัดแท่งสีหวานเข้าไปคำนึงก่อนร้องซี๊ดเสียวฟัน
แต่ก็พยายามกินต่อไปด้วยการเลียของหวานตรงหน้าช้าๆ เหมือนจะกินเลอะไปนิด
มือขาวที่กำลังจะยกขึ้นเช็ดปากชะงักเมื่อมีมือของใครอีกคนปาดรอยเปื้อนตรงปากและแก้มให้เบาๆทิ้งความอุ่นร้อนให้เห่อแดงตามแก้มและใบหูขาว
“กินเหมือนเด็กไปได้”เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู
ก่อนจะกลับไปคุยกับแจบอมต่อ แจ๊คสันเม้มปากแดงแน่น
กัดไอติมที่เหลือทั้งหมดภายในคำเดียวเคี้ยวกรวมๆไม่กลัวเสียวฟันแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง
ไอ้หัวใจนี่ก็หยุดสั่นดิวะ!
Treasure, that is what you are
Honey you're my golden star
And if you could make my wish come true
If you let me treasure you
If you let me treasure you
สมบัติล้ำค่า นั่นแหละคือสิ่งที่คุณเป็น
ที่รัก คุณคือดวงดาวทองคำของผม
และหากคุณทำให้ความปรารถนาของผมเป็นจริงได้
ขอให้ผมได้ดูแลคุณอย่างดีด้วยเถอะ
ยอมให้ผมได้ปกป้องดูแลคุณอย่างดีด้วยนะ
Honey you're my golden star
And if you could make my wish come true
If you let me treasure you
If you let me treasure you
สมบัติล้ำค่า นั่นแหละคือสิ่งที่คุณเป็น
ที่รัก คุณคือดวงดาวทองคำของผม
และหากคุณทำให้ความปรารถนาของผมเป็นจริงได้
ขอให้ผมได้ดูแลคุณอย่างดีด้วยเถอะ
ยอมให้ผมได้ปกป้องดูแลคุณอย่างดีด้วยนะ
ปากผมคุยกับแจบอมก็จริงแต่ตาผมกลับมองแต่คนที่เดินหนีเข้าห้องไป
ไม่รู้โกรธรึเปล่า แต่เดี๋ยวค่อยง้อแล้วกัน
ผมเห็นนะว่าเจ้ายูคยอมมันแอบมองผิวขาวๆของแจ๊คสันน่ะ
ถึงจะรู้ว่าเมมเบอร์เห็นมันแบบนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็เถอะ แต่ก็อดหวงไม่ได้อยู่ดี
แล้วยิ่งมานั่งดูดกินไอติมอยู่ข้างเขาแบบนี้
สารภาพเลยว่าโคตรอยากกดให้ช้ำตรงนี้เลย คนอะไรกินไอศกรีมได้โคตรเซ็กซี่!
เสียงสูดปากซี๊ดตอนแรกว่าสยิวแล้ว
เจอท่าดูดไอติมแล้วแทบร้องแม่เจ้าโว้ยยยย ปากเจ่อแดงดูดแท่งไอศกรีมสีหวานช้าๆ
ลิ้นเล็กแลบเลียชิมน้ำหวานที่ละลายจากแท่งน้ำเชื่อมแข็ง ตากลมปรือหรี่ลงเล็กๆ
ท่าทางแบบนั้นเจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าทำเอาไอ้แจบอมเผลอมองค้างไปเป็นนาที
แถมยังกินเลอะเป็นเด็กๆอีกแหน่ะ
ด้วยความหึงหวงหรืออยากแกล้งอะไรไม่ทราบได้ ผมเลยหันไปเช็ดปากคนตัวเตี้ยกว่าเบาๆ
ดีแค่ไหนแล้วที่ผมไม่เอาเข้าปากเหมือนพระเอกในละคร
แต่ถึงอย่างนั้นแจ๊คสันก็ยังหน้าแดงแปร๊ดเป็นลูกมะเขือเทศ
แล้วก็มีปฏิกิริยาอย่างที่ได้ว่าไป
“เฮ้ย
มาร์ค”แจบอมเรียกผมให้หันไปฟังมัน
“ไม่ตามไปเหรอ?”อาจเป็นเพราะแจบอมเป็นลีดเดอร์หรือผมแสดงออกชัดเจนไป
แจบอมเลยรู้ความสัมพันธ์ของพวกผมดี เออ จะว่าไปมันก็เป็นแฟนกับจูเนียร์นี่เนอะ...
“เดี๋ยวค่อยไป
ไปตอนนี้เดี๋ยวงอนยาว”
“จะดีเหรอ
นายยังไม่ขอบอกเจ้านั่นเลยนี่ว่านายคิดยังไงกับมัน เผื่อมันคิดเองเออเอง
จะแย่นะเว้ย”
“พูดเหมือนเคยเจอ”
“เออ เจอเต็มๆกับจูเนียร์นี่แหล่ะ
ถ้าไม่ยอมบอกออกไปเดี๋ยวเสียใจนะเว้ย”มันพูดให้คิด
ผมเลยถอนหายใจแล้วเดินตามแจ๊คสันเข้าไปในห้อง
คนตัวเตี้ยกำลังนั่งซุกเข่าฟังเพลงในโทรศัพท์ตัวเอง
ไม่ได้สนใจผมที่เดินเข้ามาจนแทบจะนั่งเกยเขาอยู่แล้ว
พยายามมองหน้าอีกคนแต่ก็เป็นไอได้ยากในเมื่ออกีคนเอาแต่ซุกหน้าลงกับแขนตัวเอง
“แจ๊คสัน”
“...”
เงียบใส่ซะอย่างนั้น
เฮ้อ ช่วยไม่ได้
“เฮ้ย!
มาร์คทำบ้าอะไรอีกเนี่ย”แจ๊คสันโวยวายลั่นเมื่อผมดึงตัวอีกคนมานั่งบนตักตัวเอง
ที่จริงตัวก็ไม่ได้เบาหรอกนะ อย่าดิ้นมากได้ไหมเนี่ย
“Give me your, give me your,
give me your attention baby
I got to tell you a little something about yourself
You're wonderful, flawless, ooh you're a sexy lady
But you walk around here like you wanna be someone else”
I got to tell you a little something about yourself
You're wonderful, flawless, ooh you're a sexy lady
But you walk around here like you wanna be someone else”
“I’m
not a lady!”
“SHU~~~”ส่งเสียงเตือนให้เงียบ นิ้วยาวเตะลงบนริมฝีปากแดงฉ่ำที่เด่นออกมาจากใบหน้าขาวที่ตอนนี้กำลังแดงระเรื่ออย่างน่ารัก
“I know that you don't know it, but you're fine, so fine
Oh girl I'm gonna show you when you're mine, oh mine”
Oh girl I'm gonna show you when you're mine, oh mine”
“...”แจ๊คสันเม้มปากแน่น
แต่ตากลมพยายามสบตาผมอยู่
“Treasure, that is what you
are
Honey you're my golden star
And if you could make my wish come true
If you let me treasure you
If you let me treasure you…
Honey you're my golden star
And if you could make my wish come true
If you let me treasure you
If you let me treasure you…
Hey Jackson Let me be your boyfriend
please?”
“...”
“Jackson please”
“Why you like me? I’m
a boy. I’m not pretty same bambam or junior and I have muscle………..I’m not a
pretty boy”
“I don’t like you. I love you”
“โอเค แจ๊คสัน พี่เคยพูดใช่ไหม
ว่านายที่เป็นนายมันดีที่สุดแล้ว พี่รักที่นายเป็นนาย นายคือแจ๊คสันหวัง
คนที่ฉันรัก ไม่ว่านายจะเป็นยังไงฉันก็รักอยู่ดี
เพราะฉะนั้น...ได้โปรด
อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับใคร
สำหรับพี่ไม่มีใครดีเท่านาย”
“มาร์ค”แจ๊คสันครางเรียกชื่อผมเสียงสั่น
ดวงตากลมรื้นด้วยน้ำตา อ่า ผมทำคนตัวเล็กร้องไห้เหรอเนี่ย
มาร์คจับใบหน้าอีกคนขึ้นมามองเขาตรงๆ
ปาดนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาอีกคนแผ่วเบา นิ้วที่เหลือปประคองใบหน้าขาวเอาไว้
เปลือกตาแดงเพราะร้องไห้หลุบลงให้คนเป็นพี่เช็ดน้ำตาให้อย่างว่าง่ายทั้งๆที่ปากแดงยังสะอื้นไม่หยุด
“เรียกพี่มาร์คสิคนดี”
“อืม พี่มาร์ค”
“ว่ายังไง ตอบพี่ได้รึยัง? Honey you're my treasure. If you let
me treasure you…”
ถามไปใจก็เต้นแรงไป แรงจนรู้สึกว่าหน้าอกเจ็บไปหมด
ได้โปรดเถอะแจ๊คสัน อย่าทำร้ายหัวใจพี่ไปมากกว่านี้เลย...
คนตัวเล็กเม้มปากแน่น ดวงตาโตหลุบต่ำหลบสายตาเขา
ทำเอาหัวใจที่เต้นตึกตักเมื่อครู่วูบโหวงลงกะทันหัน
ความรู้สึกเหมือนเดินขึ้นไปบนประภาคารสูงและโดนผลักตกลงมากะทันหัน
น้ำตากำลังจะไหลลงจากหางตา
แต่จู่ๆหัวใจที่แฟบลงก็ถูกสูบขึ้นมาให้พองโตอีกครั้งด้วยคำตอบที่แสนจะแผ่วเบาจากคนที่เขายกให้เป็นสมบัติล้ำค่า
“Yes, Mark yes…and you’re my treasure too”คนตัวเล็กตอบเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน
ใบหน้าขาวทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นมา
รอยยิ้มกว้างอย่างที่มาร์คลงความเห็นว่ามันคือรอยยิ้มที่น่ารักน่าเอ็นดูมากที่สุดในโลกจะปรากฏขึ้นให้เขาได้ยกยิ้มกว้างตาม
มาร์คดังคนน่าเอ็นดูตรงหน้าเข้ามากอดไว้แน่น
น้ำตาไหลลงมาช้าๆ แต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะความเสียใจแต่เป็นความดีใจอย่างถึงที่สุด
เพราะในที่สุดเขาก็เป็นเจ้าของสิ่งล้ำค่าที่ใฝ่ฝันมานานแล้ว
“พี่มาร์ค
มันอึดอัดน้า”คนโดนกอดดิ้นกระแด่วๆเพราะโดนกอดแรงเกินไปจนแทบหายใจไม่ออก
มาร์คปล่อยอ้อมกอดตามที่แจ๊คสันหวัง
แต่มือหนากลับยึดโครงหน้าน่ารักไว้ก่อนจะแนบริมฝีปากตัวเองลงบนริมปากอิ่มน่าจูบแน่น
“อื้อ”แจ๊คสันรู้สึกลมหายใจสะดุด
ในหัวรู้สึกเบลอๆจนเหมือนเห็นอะไรวิ้งๆวิ่งผ่านไปมา
ไม่ใช่ไม่เคยจูบแต่จูบของมาร์คต้วนทำเอาเขาทำตัวไม่ถูก มันรู้สึกดีเกินไปจนกลัวตัวเอง...
มาร์คเน้นสลับกับผ่อนแรงจูบบนริมฝีปากหวานั่นอย่างเชี่ยวชาญ
แลบลิ้นไล้กลีบปากอิ่มเป็นเชิงขออนุญาตก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้าไปเล่นภายในโพรงปากหวานที่เคยใฝ่ฝันอยากลิ้มลองสักครั้ง
แจ๊คสันไม่ได้อ่อนประสบการณ์การจูบ ดังนั้นจูบของพวกเขาจึงทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆเพราะไม่มีใครยอมใคร
มือหนาเริ่มไม่อยู่สุขแตะไล้ตั้งแต่ลำคอขาวลงมาสีข้างเลื้อยเข้าไปใต้เสื้อกล้ามตัวบางที่คนตัวเตี้ยใส่อยู่
บีบนวดไปตามร่างกายของคนรักช้าๆให้ผ่อนคลาย
ไม่รู้เมื่อไหร่ที่พวกเขาเปลี่ยนมาอยู่ในท่านอนโดยมีมาร์คคร่อมตัวแจ๊คสันเอาไว้แบบนี้
แต่ใครจะสนในเมื่อรสจูบมันหอมหวานร้อนแรงน่าสนใจมากกว่าเยอะ
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงเคาะประตูดังลั่นเรียกสติของทั้งคู่ให้กลับมา
แจ๊คสันรีบผละออกมาจากคนตัวสูงด้วยความตกใจ
รีบใช้หลังมือปาดริมฝีปากที่ทั้งบวมทั้งแดงจากจูบเมื่อครู่ แก้มกลมแดงจัด
จมูกรั้นสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆอย่างคนพยายามปรับจังหวะการหายใจให้เข้าที่เข้าทาง
ตากลมมองใบหน้าหล่อที่ยิ้มกว้างมาให้เขาอย่างคนอารมณ์ดีด้วยสายตาเคืองๆ
“ว่าไง”แจ๊คสันรีบตะโกนถามคนหน้าประตู
“นี่ยองแจนะพี่ เปิดประตูให้หน่อย ผมจะมาเอาหนังสือภาษาอังกฤษที่ลืมไว้อ่ะ
ว่าจะให้แบมแบมช่วยดูให้”
“อ่าๆ ได้ๆ เดี๋ยวนะ”กำลังจะลุกแต่โดนมือหนากดห้ามเอาไว้
เป็นมาร์คที่ลุกขึ้นไปที่หน้าประตู มือกำลังจะแตะกลอนประตูแต่เหลือบมามองเขาก่อน
ดวงตาสวยจ้องเขาเขม็ง นิ้วเรียวยกขึ้นมาชี้เสื้อตัวเองก่อนชี้มาที่เขาอีกรอบ ผมก้มลงมองตามนิ้วที่ชี้มาก่อนจะกรีดร้องลั่นจนยองแจที่อยู่หน้าประตูเคาะประตูรัวเพราะนึกว่าเกิดอะไรขึ้นด้านใน
“ไม่มีอะไรยองแจ แจ๊คสันแค่เห็นแมลงสาปน่ะ แป๊ปนึงนะ
ขอจัดการมันก่อน”มาร์คตอบยองแจ
ก่อนจะสาวเท้าเดินมาหาแจ๊คสันนั่งที่ส่งสายตาเขียวปั๊ดมาให้ จะไม่ให้โกรธได้ยังไง
ในเมื่อเสื้อกล้ามเขาโดนถลกขึ้นสูงจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการถอดตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
แถมกางเกงยังแอบโหลดต่ำเหมือนโดนมือซนๆของใครบางคนดึงลงอีกแหน่ะ
“ยังไม่แต่งตัวอีก”
“พี่มาถลกเสื้อผมขึ้นทำไมเล่า!”
“เสียงดังนี่อยากให้ยองแจรู้รึไงว่าเมื่อกี้พวกเราทำอะไรกัน”
“...อย่ามาขู่ผมนะ...”ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่ก็ลดเสียงลงอยู่ดี
น่าเอ็นดูจนอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกรั้นนั้นเบาๆแก้หมั่นเขี้ยว
“อื้อ ไปเปิดประตูให้ยองแจสิ รอนานเดี๋ยวน้องก็สงสัยหรอก”
“พี่แจ๊คสัน พี่มาร์ค ยังจัดการแมลงสาปไม่เสร็จอีกเหรอ”เสียงตะโกนถามจากเมนหลักของวงดังขึ้นมาพอดิบพอดี
มาร์คจึงเดินไปเปิดประตูให้ยองแจเข้ามา
ไม่รู้ว่าตาฝาดรึเปล่า
แต่สายตายองแจตอนมองมาที่เขาเมื่อกี้มันดูเหมือนรู้ทันแปลกๆ
แจ๊คสันนั่งพิงกำแพงทำท่าเหมือนกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ไปตามเรื่องตามราว
ในขณะที่มาร์คหาหนังสือส่งให้คนมาใหม่
“นี่หนังสือนาย ไหนบอกให้พวกฉันสอนให้ไง
ทำไมให้แบมแบมเป็นคนสอนล่ะ”
“ผมแค่คิดว่าช่วงนี้พวกพี่คงไม่ว่างน่ะ
ก็เลยเดี๋ยวให้แบมแบมสอนรอไปก่อน”
“ทำไมพวกพี่จะไม่ว่าง มีงานใหม่รึไง?”แจ๊คสันที่แอบฟังบทสนทนาถามขึ้นมางงๆ
ก่อนจะรู้ตัวว่าถามผิดไปเสียแล้ว เมื่อยองแจยกยิ้มกว้างก่อนตอบเสียงใส
“แหม่
ก็คงเหนื่อยจากกิจกรรมตามประสาคู่รักเหมือนที่พวกพี่ทำกันเมื่อกี้มั้งครับ”
ทิ้งระเบิดเสร็จไอ้ตี๋ตัวแสบก็เผ่นแน่บ ทิ้งพี่ชายทั้งสองคนให้หน้าแดงอยู่ในรังรักของตัวเอง
“ไอ้ตี๋นรก!!!”
นั่นคือเสียงก่นด่าตามหลังของแจ๊คสันหวัง
...................END เถอะ..........................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น