[SF] LOVE MINIMART [BAMJIN]
TITLE:
LOVE MINIMART
COUPLE:
BAMBAM x JUNIOR [BAMJIN] FT.MARKSON
RATE:
PG-18
WORD:
2,425
BY:
Silverfeather29 /@silverfeather29/
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
LOVE
MINIMART
“จินยองฮะ~~”น้ำเสียงแหลมทุ้มเล็กๆร่าเริงเหมือนยังไม่แตกดีดังขึ้นหน้าห้องทำงาน เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นจากเอกสารบัญชีรายรับรายจ่ายในมือ
ขมวดคิ้วมุ่น เขารู้ดีว่าใครเกาะประตูอยู่ด้านนอก
“แบมแบม
มาแล้วทำไมไม่ไปทำงาน”
“ก็ผมคิดถึงจินยองเน่~
ขอเจอหน้าหน่อยน้า~~~”เสียงออดอ้อน
ลูกบิดประตูลั่นกึกๆ จินยองถอนหายใจเฮือก วางปากกาลง เดินไปเปิดประตูแง้มเล็กน้อย
มองเจ้าเด็กตัวสูงผอมแห้งหน้าห้องที่กำลังยิ้มกว้างจนแก้มอูมนั่นขึ้นเป็นลูกกลม
ตากลมๆนั่นหยีลงจนเป็นสระอิเลย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องยิ้มขนาดนั้นกัน
“ไปทำงานได้แล้ว
ก่อนที่ฉันจะพิจารณาไล่นายออก”
“แง๊ววว~~”แบมแบมยู่ปากอิ่มจนห้อยดูแล้วน่ารักดี
ถ้าไม่นับว่านิสัยกวนส้นของมันล่ะก็นะ
“จินยองใจร้ายตลอดเลยอ่ะ
แต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี”หงอยได้ไม่เกินสามวิก็กลับมายิ้มกว้าง
ยัดถุงขนมใส่มือร่างที่ยังขังตัวอยู่ในห้อง “เอาขนมจากบ้านมาฝากฮะ
อย่าทำงานหนักจนลืมกินข้าวล่ะ จินยองผอมมากเลยนะ”
“บอกตัวเองก่อนเถอะไอ้เด็กแห้ง”จิ๊ปาก
จิ้มหน้าผากสีน้ำผึ้งอ่อนๆนั่นด้วยความหมั่นไส้ที่เจ้าของหัวเราะกึกๆไม่สำนึกแต่อย่างไร
“ผมกำลังโตเฉยๆน่า
แต่จินยองน่ะแก่จนหยุดสูงไปแล้วนี่”
“เอ๊ะ! ไอ้เด็กนี่
อยากโดนซองขาววันนี้รึไง”ถลึงตาโตแทบจะออกมาถีบไอ้เด็กแสบปากกวนโอ๊ยตรงหน้า
แต่แบมแบมไหวตัวทันรีบยิ้มแผล่วิ่งหนีแล่บไปทางประตูสำหรับพนักงาน
“ไม่คร๊าบ
แบมไปทำงานดีกว่า”
จินยองถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามหลังร่างผอมสูงนั่นไป
ปิดประตูเดินเข้ามานั่งที่เดิม คิดอะไรไปต่างๆนานา
แบมแบมเป็นพนักงานพาร์ทไทม์
เป็นเด็กมอปลายปีสุดท้ายกำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลับ อายุแค่ 18 ปี ส่วนจินยองเป็นเจ้าของร้านเซฟมาร์ทเล็กๆในย่านธุรกิจดัง
อายุ 23 ปี แก่กว่าเจ้าเด็กนั่นตั้ง 6 ปี ไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรให้ถูกใจ
เจ้าเด็กนั่นถึงได้ตามเกี้ยวตามจีบเขาตั้งแต่มอห้ายันขึ้นมอหกก็สมัครมาเป็นพนักงานในร้านซะอย่างนั้น
ตอนแรกๆก็รำคาญแหละ
มาหลังๆก็เริ่มคิดว่าเด็กคงแค่อยากรู้อยากลองเลยเออออบ้างจนกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตไปแล้ว...
ตาเรียวกลมก้มลงมองบัญชีที่ขึ้นขีดแดงแล้วถอนหายใจเฮือก
ร้านนี้จะอยู่ต่อได้อีกเท่าไหร่กันนะ?...
สมองตื้อตันคิดอะไรไม่ออก
ลุกขึ้นจากเก้าอี้อีกครั้ง คราวนี้คว้าเสื้อคลุมมาด้วย
กะว่าจะไปเดินเล่นข้างนอกเสียหน่อย
เดินผ่านหน้าเคาท์เตอร์ที่แบมแบมกำลังนั่งประจำที่อยู่
เจ้าเด็กนั่นรีบกระดี๊กระด๊าวิ่งมาหาเขา
มองแล้วก็เอ็นดูอ่ะนะ...เหมือนลูกหมาตัวเล็กๆ
“จินยองจะออกไปไหนเหรอ”
“ออกไปเดินเล่นสักหน่อย
เฝ้าร้านดีๆล่ะ”
“ออกไปด้วยไม่ได้เหรอ?”
จินยองขมวดคิ้วอีกแล้ว
คราวนี้เริ่มโกรธเจ้าเด็กนี่ขึ้นจริงๆ “ฉันว่าฉันจ้างนายเป็นพนักงานนะ ไม่ใช่ให้มาตามฉันต้อยๆแบบนี้”
พอโดนดุเข้าจริงๆก็หูตกหางห้อย
รีบวิ่งไปประจำที่เดิม จินยองถอนหายใจเดินออกมาจากร้าน ไม่อยากจะดุหรอกนะ
แต่ถ้าตามใจมากไปเดี๋ยวเด็กนั่นจะเหลิงจนไม่ยอมทำงานน่ะสิ
เดินออกไปไม่ถึงช่วงถนนก็เริ่มคิดแล้วว่าตัวเองคิดผิดที่ออกมาเดินเล่นเมื่อดันเหลือบไปเห็นร่างคุ้นตาอยู่ร้านตรงข้ามฟากถนน
เผลอจ้องนานจนเหมือนคนคนนั้นจะรู้สึกตัวหันหน้ามา จินยองสะดุ้งรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้น
แต่ก็ไม่ทันมือแกร่งที่ฉุดมือเขาไว้พอดี
“จูเนียร์”สรรพนามที่ไม่ได้ยินมานานเอ่ยเรียกชื่อเขา
มืออุ่นรั้งแขนเขาไว้ให้หันหน้าไปเผชิญกับคนที่ไม่อยากจะเจอหน้า
“เอ่อ
สวัสดีครับ พี่มาร์ค”
“สวัสดีครับ
ไม่เจอกันนานเลย แต่เมื่อกี้เหมือนจะวิ่งหนีพี่เลยนะ”ร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อสวยเอ่ยยิ้มๆ
ปล่อยมือคนร่างบางออก จินยองอย่าวิ่งออกไปจากตรงนี้แต่ก็รู้ว่ามันเสียมรรยาทเกินไป
“เอ่อ ไม่ครับ
พอดีผมรีบๆน่ะ”
“อ้าวรีบเหรอ?
ขอโทษนะที่ชวนคุย”
“มะ
ไม่เป็นไรครับ พี่มาร์คมาทำอะไรแถวนี้เหรอ”
จินยองอยากตบปากตัวเองที่ดันพูดคุยไม่เรื่องอื่นต่อเวลาไปเรื่อยๆ
หัวใจปวดร้าวเมื่อได้ยินคำตอบ
“มารอใครบางคนน่ะ...”รอยยิ้มบางเบาแต่ช่างอบอุ่น
ดวงตาสวยฉายแววเอ็นดูแต่สายตานั้นไม่ได้มอบให้เขา ทั้งหมดนั่นไม่ใช่ของเขา...
“แฟน...เหรอครับ”กลั้นใจถามทั้งที่ยิ่งถามก็ยิ่งเจ็บ
“หึหึ
ก็อยากเรียกอย่างนั้นอยู่ แต่เจ้าตัวเขาไม่ยอมให้พี่เรียกสักทีนี่สิ...อ๊ะ
มาแล้ว”นิ้วเรียวจรดที่ริมฝีปากบางเป็นเชิงบอกให้เงียบ
จินยองหน้าแดงผ่าวกลั่นไม่ไหว รู้สึกร้อนๆตรงจุดที่มาร์คแตะ
ดวงตามองตาร่างสูงที่เลิกสนใจเขา
วิ่งเหยาะแหยะเสียงเบาไปทางใครคนหนึ่งที่ยืนนิ่งเหมือนรอใครบางคนอยู่หน้าร้านขายกาแฟ
มาร์คอาศัยทีเผลอใช้แขนกอดรัดจากทางด้านหลัง
เสียงโวยวายจากเด็กหนุ่มคนนั้นดังโหวกเหวกสะบัดตัวจะหลุดออกจากอ้อมกอดของร่างสูงที่ยิ้มกว้างมีความสุข
ภาพน่ารักๆตรงหน้ายิ่งตอกย้ำหัวใจให้เจ็บแปลบขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้
แทบร้องไห้ตอนเห็นมาร์คฉุกกระชาก (?) คนสำคัญของตัวเองมาทางเขาและแนะนำให้รู้จัก
“นี่แจ๊คสัน
เขาเป็นฟ...อื้ม!”เสียงทุ้มกลายเป็นเสียงอื้อเพราะโดนร่างเตี้ยข้างกายปิดปากไว้
ดวงตากลมโตมองมาร์คดุๆ หันมามองทางจูเนียร์ แย้มยิ้มกว้างผงกศีรษะทักทาย
“ผมชื่อแจ๊คสันครับ
เป็นเพื่อนร่วมห้องของพี่มาร์คครับ”
...เพื่อนร่วมห้องที่เป็นเพื่อนร่วมใจสินะ...จินยองไม่อยากเป็นคนขี้อิจฉาไร้เหตุผล
แต่ตอนนี้กำลังอยากทิ้งเหตุผลทั้งหมดแล้วอิจฉาเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ได้สิ่งที่เขาต้องการไปครองอย่างเต็มที่
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ
ผมชื่อจินยองครับ เพื่อนรุ่นน้องสมัยเรียนของพี่มาร์คน่ะ อ้อ ผมมีธุระต่อ
ต้องขอตัวก่อนนะครับ”
“อ้าว
ไปแล้วเหรอ? โชคดีนะ”มาร์คบอกแค่นั้น เพราะดวงตาสวยสนใจเพียงใบหน้าแดงก่ำของเด็กหนุ่มข้างกาย
จินยองเดินออกมาด้วยดวงใจที่ปวดร้าว
เรื่องนี้จะโทษใครดีล่ะ
โทษมาร์คที่ทักเขา
โทษแจ็คสันที่เป็นคนสำคัญของมาร์คหรือโทษตัวเองที่ดันไปหลงรักคนที่ไม่อาจได้มาไว้ในครอบครอง...
แบมแบมโบกมือลาพนักงานรุ่นพี่ที่ขอตัวกลับบ้านก่อนเวลาร้านจะปิดหนึ่งชั่วโมงเพราะมีธุระทางบ้าน
นั่งเล่นมองดูร้านขายของเล็กๆที่ตัวเองทำงานอยู่อย่างไม่รู้จะทำอะไร
ร้านเล็กๆที่ตกแต่งได้อย่างน่ารักเหมือนเจ้าของร้านคนนั้น...
คิดแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
แบมแบมรู้ว่ามันดูแปลกๆที่เด็กมอปลายแบบเขาตามจีบเจ้าของร้านมือใหม่แบบจินยอง
แต่เขาก็รักจินยองไปแล้วจริงๆ ถึงความหวังมันจะดูเลือนราง แต่ก็ยังดีกว่าตัดใจโดยไม่เริ่มทำอะไรไม่ใช่เหรอ?
เสียงเตือนหน้าร้านเรียกสติเขาให้กลับมาสนใจงานตัวเองเสียที
“JRMart
สวัสดีครับ...เอ๊ะ
จินยอง”คำทักทายหายเข้าไปในลำคอเมื่อเห็นคนร่างบางที่ตัวเองตกหลุมรักเดินเซๆเข้ามาในร้าน
“จินยองเป็นอะไร”รีบเข้าไปพยุงกายร่างที่เซจนจะไปชนชั้นวางของอยู่แล้ว
เพียงเข้าไปใกล้กลิ่นเหล้าก็ลอยหึ่งมาชนจมูกจนต้องเบ้หน้าหนี
“จินยองเมาเหรอ?”
“ฉันไม่ได้เมา!!”เสียงกระชากอ้อแอ้ มือบางปัดป่ายไปทั่วจนชนของบนชั้นตกลงมา
แบมแบมดูสถานการณ์แล้วรีบดึงตัวเจ้าของร้านคนเก่งเข้าไปหลังร้านทันที
พยุงกายเข้าไปในห้องอย่างอยากลำบากเพราะคนโดนพยุงไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด
แป๊ปๆก็ผลักแป๊ปก็เซจะล้มแบบนั้นอยู่ร่ำไป
แบมแบมวางจินยองลงบนโซฟาในห้องทำงานของคนร่างบาง
กำลังจะหันกลังกลับไปหาผ้ามาเช็ดตัวให้ก็ต้องร้องเหวอลั่น
เมื่อร่างบางกระชากเขาลงบนพื้นพรม ตามด้วยตัวเองที่ลงมานั่งคร่อมตักเด็กหนุ่ม
ริมฝีปากบางตามลงมาประกบจูบลงบนปากอิ่มของคนใต้ร่าง
แบมแบมเบิกตากว้างตกใจกับการกระทำของคนตรงหน้า
กลิ่นเหล้าขมปร่าบนปลายลิ้นเล็กที่สอดแทรกเข้ามารุกเร้าในปากเขาเตือนให้แบมแบมรู้ว่าจินยองทำเพราะเมา
เขาจับแขนจินยองผลักขึ้น
เขย่าเบาๆเรียกสติ
“จินยอง
ตั้งสติหน่อยครับ จินยอง!”
“ฮึก...”แทนที่จะได้สติกลายเป็นว่าดวงตากลมเรียวกลับปล่อยน้ำตาลงมาสายใหญ่
สะอื้นไห้น่าสงสารจนแบมแบมต้องรั้งร่างนั้นมากอดแน่น
ตกใจว่าคนที่เคยคุมตัวเองได้ดีเสมออย่างจินยองทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้
“มาร์ค
พี่มาร์ค”ชื่อใครบางคนที่เขาไม่คุ้นชื่อดังออกมาจากร่างเล็กที่เขากอดอยู่แน่น
แบมแบมกดหน้าลงบนกลุ่มผมนุ่ม รู้สึกเจ็บเมื่อคนที่ตัวเองรักต้องมาร้องไห้เพราะผู้ชายอีกคน
และน่าจะเป็นผู้ชายที่จินยองรักมากเสียด้วย...
“จินยอง
มองหน้าผมสิ”
“พี่มาร์ค...”
“ปาร์ค จินยอง
จูเนียร์!!! ได้สติสักที!”ตะโกนเสียงดังใส่ร่างที่ยังพร่ำเพ้อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
จินยองสะดุ้งเฮือกมองดูคนที่ตอนนี้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้
ดวงตาที่เขาคิดว่าสดใสเดียงสามาตลอดฉายแววโกรธเกรี้ยว
สะดุ้งตกใจตอนตัวเองโดนพลิกร่างกลับไปนอนบนโซฟาแล้วร่างผอมสูงเข้ามาคร่อมทับ ริมฝีปากอิ่มทาบป้อนรสจูบรุนแรงดูดกลืนริมฝีปากเขาจนเจ็บไปหมด
แบมแบมเลื่อนใบหน้าไปสูดดมกลิ่นน้ำหอมปนกลิ่นเหล้าของคนด้านล่าง
ผิวเนื้อนุ่มขาวน่าฝังรอยเรียกให้กดจูบลงแนบแน่น ดูดดึงจนกลายเป็นรอยจูบสีสด
มือผอมเลื่อนลงไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตและเข็มขัดเส้นเล็กของคนใต้ร่าง
“มองผม! ผมเป็นใคร?”
“บะ
แบมแบม”เสียงพร่าเอ่ยตอบ
“มองผม
เรียกชื่อผม อย่าไปคิดถึงคนอื่น คิดถึงแค่ผม”พร่ำบอกขณะไล่ลิ้นไปตามร่างกายขาวนวลเนียนไร้ที่ตำหนิ
บทรักที่ไม่นุ่มนวลนักแต่ก็ไม่รุนแรงจนถึงขนาดทำให้ทรมานเริ่มขึ้นบนโซฟา
กางเกงสีเข้มของร่างบางถูกถอดออกไป
เสียงกรีดร้องครางเครือดังก้องห้องเมื่อถูกรุนราน จังหวะเนิบช้าเร็วขึ้นเรื่อยๆตามห้วงอารมณ์ที่แปรผันไป
จนถึงจุดสิ้นสุดของอารมณ์
เสียงหอบหายใจดังเครือ
แบมแบมลุกออกจากร่างบางที่นอนยกมือปกหน้าตัวเองนิ่ง
เสียงสะอื้นไห้เบาๆดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน
“ผมขอโทษ”
“ฮึก...”
“จินยอง...”
“…”ร่างบางเงียบไปแล้ว แบมแบมเอาเสื้อคลุมของร่างเล็กขึ้นไปคุลมกายขาวให้
กำลังจะลุกขึ้นก็โดนมือบางยื้อไว้อีก
“ฉันมันพวกขี้อิจฉา...”จินยองเริ่มพูดทั้งที่มือยังปิดใบหน้า
แบมแบมนั่งลงนิ่งๆฟงัเรื่องรวาจากฝากของอีกฝ่าย
เขารู้ว่าตอนนี้จินยองอยากได้คนที่พร้อมจะรับฟังเขาจริงๆ “พี่มาร์คเป็นพี่รหัสฉันที่มหาวิทยาลัย
ฉันตกหลุมรักเขา แต่ฉันมันไม่กล้า ได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆมาตลอด
จนพี่เขาจบฉันก็ยังไม่มีโอกาสได้บอกความรู้สึกในใจออกไป...”
แบมแบมกระชับมือบางแน่นให้กำลังใจ
อดทนรอฟังอยู่ข้างๆ “แต่เมื่อกี้...ฉันเจอพี่มาร์คมารับแฟน”มือบางบีบมือเขาแน่นจนเจ็บ
“ฮึก เหมือนคนบ้าที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์แต่ก็ยังไปหึงเลยเนอะ ไร้เหตุผลชะมัดเลย...”
“...ความรักมันไม่มีคำว่าเหตุผลหรอก”
“...”
“ผมรักพี่
มันก็ไม่มีเหตุผล พี่รักมาร์ค มันก็ไม่มีเหตุผล มาร์ครักแฟนเขา มันก็ไม่มีเหตุผล
ความรักมันเคยหาเหตุผลได้จริงๆที่ไหน ไม่ใช่สมการคณิตศาสตร์สักหน่อยที่คำตอบต้องตรงเป๊ะอยู่คำตอบเดียว”
แบมแบมจับมือที่ยังปิดบังใบหน้านั้นให้เปิดออก
ใบหน้าน่ารักเปื้อนด้วยรอยน้ำตา กระชับฝ่ามือทอดความรู้สึกหนักแน่น
“พี่ให้โอกาสผมได้ไหม...”
“หืม?”
“ให้โอกาส...
ให้ผมเป็นคำตอบความรักของพี่ได้ไหม?”
“แบมแบม! ไปทำงาน!”เสียงร้องของร่างบางยังคงสั่งให้คนผอมสูงทำตามคำสั่งอยู่เหมือนทุกวัน
เสียงเตือนดังขึ้นอีกครั้ง
จินยองเบิกตากว้างเมื่อเห็นมาร์คและแจ๊คสันเดินเข้ามา
แจ๊คสันวิ่งไปทางตู้ไอศกรีมเลยยังไม่ทันเห็นเขา ในขณะที่มาร์คเดินเข้ามาหายิ้มๆ
“จูเนียร์ทำงานที่นี่เหรอ?”
“อ่า ไม่ครับ
ผมเป็นเจ้าของที่นี่น่ะ...”ตอบเสียงอ้อมแอ้ม แอบเขินคนตัวสูงอยู่เหมือนเดิม
สะดุ้งวาบเมื่อฝ่ามืออุ่นซ้อนเข้ามาใต้เคาท์เตอร์จับมือเขาไว้มั่น
“ฮะ
พี่เจอาร์เป็นเจ้าของที่นี่ฮะ”
จินยองถองศอกใส่คนข้างตัว
แอบถลึงตามอง แก้มแดงเรื่อง
มาร์คมองหน้าเจ้าเด็กอายุน้อยข้างกายรุ่นน้องของตัวเองอย่างนึกสงสัย
สายตาไม่เป็นมิตรเหมือนกำลงไล่เขากลายๆแบบนั้นคืออะไร
แถมสรรพนามที่ใช้เรียกขานนั่นอีก
“มาร์คฮยอง~”เสียงห้าวของคนตัวเล็กของเขาดังขึ้นจากด้านหลัง
หันไปมองก็เจอดวงตากลมโตช้อนขึ้นมามองอ้อน ในมือขาวปรากฏไอศกรีมโคนสองแท่ง
“เลือกไม่ได้
งั้นผมเอาสองอันนะ”ยิ้มกว้างอ้อนมาร์คที่ส่ายหน้ายิ้มๆ
ยกมือโยกศีรษะกลมใต้หมวกเท่ๆนั่นอย่างนึกเอ็นดู
“กินไม่หมดฮยองจะลงโทษนะ”
แจ็คสันพองแก้มเป็นปลาปักกะเป้าแต่ก็แย้มยิ้มออกมาในที่สุดตอนที่มาร์คหวังเงินจ่ายให้
ทั้งสองโบกมือลาจินยองแล้วหายออกไปจากร้าน
จินยองมองภาพนั้นยิ้มๆ
ถึงจะยังหน่วงใจแต่ก็โอเคขึ้นมากแล้ว
โดยเฉพาะเวลาที่มีมืออุ่นๆกระชับอยู่อย่างนี้ให้รู้ว่าเขายังมีคนอยู่ข้างกาย
“ผมหึงนะ...”
“หึงบ้าหึงบอกอะไรของนาย
ไปทำงาน ไม่งั้นคืนนี้ไม่ต้องไปเดต”
“เฮ้! แต่เราตกลงกันแล้วนี่”แบมแบมแย้งมีท่าทางงอแงเหมือนเด็กๆขึ้นมาทันที
จินยองยกมือโขกมะเหงกเข้าให้
“ไปทำงาน!”
“คร๊าบๆ”ตอบรับเสียงหงอยรีบวิ่งไปจัดสินค้าขึ้นชั้นวางตามคำสั่งของเจ้าของร้านคนเก่ง
ยังไม่ได้เป็นแฟนหรอก...แต่ในอนาคตอันใกล้ก็ไม่แน่...
แบมแบมคิดว่าล่ะนะ...
กบฏของกบฏ
แต่งตามรีเควสของเพื่อนคนเขียนเอง
จัดให้แล้วนะเจ๊ อย่าตบเค้าในคลาสนะ 5555555555
แต่งยากมากกกก เหมือนแต่งคู่เลส
ถถถถถถถถถ หยิวได้อีก โถ่วววว
ยิ่งแต่งยิ่งเหมือน มาร์คสัน FT.
แบมเนียร์เลย เอาน่า อย่างน้อยก็แบมเนียร์นะ 555555555555
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น