[SNH] CH12
+---------------------------------------------------------+
บทที่ 12
แก้แค้น
+---------------------------------------------------------+
“พี่จุนเค...ผมมีเรื่องจะขอร้อง”
+------------------------+ SNH
+------------------------+
เป็นภาพคุ้นชินของยามประจำคอนโดไปเสียแล้วกับการที่ในทุกๆเย็นเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาเปียกซกไปด้วยเหงื่อจะปั่นจักรยานหิ้วถุงกับข้าวและกาแฟเย็นสองแก้วเข้ามาจอดในคอนโดกลางเมืองอันหรูหรา
ทักทายคนที่เดินผ่านไปมาด้วยด้วยความอัธยาศัยดี เสียงหัวเราะ รอยยิ้มน่ารักและท่าทางยียวนน่าเอ็นดูที่ทำให้ทุกคนเกิดความประทับใจ
จนกลายเป็นหนุ่มป๊อปประจำคอนโดไปเสียแล้ว
แต่ไม่มีใครเคยเห็นเขาออกมาจากห้องหลังสองทุ่ม...
แม้จะมีใครไปเรียกก็จะไม่ขานราวกับภายในห้องนั้นไม่มีใครอยู่
แถมยังมีผู้ชายหน้าตาดีผลัดเปลี่ยนแวะเวียนมาเยี่ยมแทบไม่ซ้ำหน้าทุกคืนอีกต่างหาก…
วันนี้ก็เช่นเดียวกัน ‘แจ็คสันหวัง’ ยังคงปั่นจักรยานรุ่นคุณปู่ที่ไปยืมมาจากจินยองเข้าคอนโด
เอ่ยทักทายลุง ป้า น้า อา ลุงยาม
หลานสาวยันแมวจรจัดจนพอใจแล้วก็เดินกลับขึ้นห้องไปพร้อมถุงกับข้าวและกาแฟเย็นสองแก้วเหมือนเดิม
ประตูเปิดผางออก กระเป๋าสะพายสีดำลอยหวือไปกองแบ๊บบนโซฟากลางห้อง
เดินไปเปิดไฟ เทกับข้าวใส่จาน เอากาแฟแก้วหนึ่งยัดเข้าตู้เย็น
แล้วถือจานและแก้วกาแฟเข้าไปในห้องนอนใหญ่
“นี่พี่มาร์ค วันนี้นะ ไอ้นิโคลัสมันโกงผมอ่ะ
คิดดูดิว่าขนาดผมชนะมันตั้งสามรอบ มันไม่ยอมรักษาสัญญาที่ว่าจะเลี้ยงชาบูผมอ่ะ
วันนี้เลยต้องซื้อกับข้าวถุงมากินอีกแล้ว”
“...”
“งอนเหรอ? ล้อเล่นน่า ผมไม่ทิ้งพี่ไปกินชาบูคนเดียวหรอกน่า”
“...”
“อ้อ วันนี้พี่คุณจะเดินทางไปสัมมนาต่างประเทศกะทันหัน
รู้ไหมพี่แทคทำไง ร้องโวยวายกอดขาพี่คุณแน่นงอแงทำเหมือนเด็กกลางคลับเลยอ่า
น่าอายชะมัด...แต่ก็น่ารักดีอ่ะนะ”ปากสวยยังคงพูดเจื้อยแจ้วเล่าเรื่องในแต่ละวันให้มาร์คฟัง
จู่ๆรอยยิ้มกว้างก็ค่อยๆเลือนลง เมื่อไม่ได้รับคำตอบกลับมา
ร่างสูงยังคงจมอยู่ในนิทราอันแสนยาวนานบนเตียงนอนสีขาว
ใบหน้าหล่อสวยราวกับรูปปั้นเลื่องชื่อ ดวงตาภายใต้เปลือกตาและแพขนตายาวยังคงนิ่งไม่ไหวติง
ลมหายใจสม่ำเสมอและหน้าอกที่ยังกระเพื่อมขึ้นลงเท่านั้นที่เป็นสิ่งยืนยันว่าร่างนั้นยังมีชีวิตอยู่
กว่าสองเดือนแล้วที่มาร์คยังไม่ฟื้นคืนมาตั้งแต่วันนั้น
ถึงพี่แทคและพี่จุนโฮจะพยายามหาทุกวิถีทางมารักษา อนิจจาที่มันไม่เคยได้ผล แต่ทุกคนยังยืนยันว่าสักวันมาร์คจะฟื้นขึ้นมา
...แล้วสักวันนั่นคือวันไหนล่ะ?...
ผมไม่เคยเหนื่อยที่จะรอหรอกนะ
แต่บางทีมันก็ท้ออยู่เหมือนกันที่ไม่มีสิ่งใดรับประกันหรือบอกได้เลยว่ามาร์คจะฟื้นขึ้นมาวันไหน
อาจเป็นพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า หรือเขาอาจจะหลับไปตลอดกาล…
...อดคิดไม่ได้ว่าผมจะทนกับความทรมานกับการรอคอยแบบนี้ได้ถึงเมื่อไหร่กัน?...
เสียงออดหน้าห้องถูกกดเป็นสัญญาณให้รู้ว่าวันนี้มีคนมารับผมแล้ว
เดินไปเปิดประตูให้ทั้งสองร่างเข้ามาข้างใน อ้อมกอดหนักๆของใครบางคนโถมเข้ามาแน่นทักทายแล้วผละออกไป
“เฮลโล่ววว
พี่แจ็คสันยังเตี้ยเหมือนเดิมนะ”ผมเท้าขึ้นขู่ไอ้เด็กยักษ์ยูคที่นับวันมันยิ่งกวนติงผมมากขึ้นเรื่อยๆ
ไอ้ภาพลักษณ์ยูคยอมคริสตัลอันใสซื่อบริสุทธิ์นั่นหายไปไหนแล้ววะ!
“นี่ๆ ไปกอดพี่แจ็คแบบนั้นนี่ไม่แคร์แบมแล้วช่ะ?”เสียงหวานดังทักขึ้นมาด้านหลัง
ยูคยอมรีบปล่อยตัวผมแล้วหันไปคลอเคลียเจ้าของตัวจริงอย่างแบมแบมทันที
“ง่า แบมอ่า แบมก็รู้ว่าเค้าไม่เคยนอกใจแบมเลยจริงๆน้า”
ตอนนี้แบมแบมกับยูคยอมคบกันแล้วครับ...ไม่ตื่นเต้นเหรอ?
ก็อ่ะนะ เป็นคู่ตามคาดนี่นะ แถมก็อย่างที่เห็น หวานเจี๊ยบน้ำตาลกวนกันเลยทีเดียว
ตอนยังไม่คบว่าหวานแล้ว ตอนมันเป็นแฟนกัน
พี่ๆแทบจะหันหน้าไปอ้วกเป็นน้ำตาลวันละสิบแกลลอน
“พี่แจ็คจะไปเลยไหมอ่า”
“แป๊ปนะ”ว่าแล้วผมก็เดินกลับไปยังห้องนอนเปลี่ยนชุดเป็นชุดสีดำกลืนไปกับพื้นราตรี
เช็คสร้อยกางเขนให้เรียบร้อย เดินไปหามาร์คที่เตียง
“พี่มาร์ค ผมไปทำงานล่ะนะ ช่วยเป็นพลังให้ผมด้วยนะครับ”
จรดริมฝีปากอิ่มลงบนปากสวยของคนที่ยังคงไม่ไหวติงแนบแน่น
น่าแปลกที่ถึงแม้มาร์คจะไม่มีสติ แต่ทุกครั้งที่เขาจูบหรือแตะต้องตัว
พลังในตัวก็เหมือนถูกเติมเต็มไม่แตกต่างจากตอนยังเป็นปกติเลยสักนิด
ทุกวันนี้ผมยังทำงานเป็นนักล่าเงาจันทร์อยู่นะ
ผมยังไม่ลืมหรอกว่าเพราะเงาจันทร์มาร์คเลยเป็นแบบนี้
ผมเลยยืนยันที่จะทำงานต่อแม้จะขาดคู่ข้างกายไป หวังว่าสักวัน
ผมจะได้เจอเงาจันทร์ที่ทำร้ายมาร์คแล้วฆ่ามันซะ...ด้วยมือของผมเอง
กระโดดเกาะระเบียงที่ยื่นออกมาทิ้งตัวลงด้านล่างลงเบาะหลังของรถเปิดประทุนสีแดงของไอ้เด็กยูคแบบเป๊ะๆ
“ไปเถอะ ไปฆ่าพวกมันให้เกิดใหม่ไม่ทันกัน”
+------------------------+ SNH
+------------------------+
สวบ!
ของมีคมปลายแหลมเสียบแทงทะลุร่างเน่าเปื่อยซ้อนสองร่างติดราวกับเจ้าของดาบกำลังเสียบลูกชิ้นเตรียมปื้งอยู่
แต่พอดีว่าไอ้สองตัวนี่ไม่ใช่ของกิน สภาพยิ่งไม่น่ามอง
แจ็คสันเลยเลือกจะใช้เท้ารูดพวกมันออกจากดาบของตัวเองไปอย่างไม่ออมแรงนัก
“พี่แจ็คถอย!”เสียงแหลมสูงตะโกนเตือน
แจ็คสันชักเท้าหลบด้วยสัญชาตญาณ รู้สึกถึงแรงหวีดของลมข้างแขน
ก่อนที่คมเคียวยักษ์จะตวัดวูบลงมาคร่าเงาจันทร์ที่ผุดด้านหลังเขา
ตาโตมองเคียวยักษ์สีดำที่ปักลงพื้นอึ้งๆ
“ไอ้แบมมมมม!!! มึงจะฆ่าพี่มึงเหร๊อออ!!!”คนส่วนสูงน้อยตวาดน้องที่ยืนค้ำด้ามเคียวยักคิ้วแพล็บกวนอารมณ์อยู่ไม่ไกล
ใจยังเต้นตุบๆกับเหตุการณ์เฉียดตายเมื่อครู่ยิ่งกว่าตอนสู้กับเงาจันทร์เสียอีก
อาวุธของแบมแบมเป็นเคียวยักษ์ เคยเห็นเคียวยมทูตใช่ไหมครับ?
แบบนั้นเลยล่ะ แถมใบมีดยังเป็นสีดำสนิทด้วยนะ เห็นตัวแห้งๆเป็นเบบี๋แฮมเตอร์แบบนั้นสกิลการใช้เคียวอย่างโหด
บ้าพลังเข้าขั้น
ออกมาสู้ไม่กี่นาทีก็ต้องวิ่งดุ๊กดิ๊กไปคลอเคลียไอ้หมีตัวใหญ่คู่มันที่ใช้ดาบสองมืออย่างเท่
ความสัมพันธ์ของคู่นี้ดูใสใสครับ แต่ไม่รู้นะว่าหลังฉากจะใสหรือเปล่า
เอาเป็นแค่ต่อหน้าผมเด็กสองตัวนี้ก็ไม่เคยจูบให้เห็นจะๆ มีแต่หอมแก้มจับมือมากสุดก็จุ๊บจมูกก็แล้วกัน
คืนนี้พวกเรามาสู้ที่เขตรับผิดชอบของพี่เฟยที่ลางานเพราะขาเคล็ดจากการทำงาน
เจ้เฟยเป็นครูสอนเต้นที่โรงเรียนสอนการแสดงชื่อดังครับ
กะจังหวะพลาดตอนสอนเด็กเต้นหมุนตัว ขาเคล็ดกันไปตามระเบียบ หน้าที่ส่วนนี้เลยตกปุ๊กมาที่คนว่างงานอย่างผม
เพราะพื้นที่ของมาร์คนั่นพี่แทคกับพี่คุณเป็นคนรับผิดชอบแทน
ผมยังสู้ได้นะ แต่สู้ได้ไม่เกินสิบห้านาที
แป๊ปแล้วก็ต้องหลบฉากให้สองมังเน่สองศรีไปจัดการส่วนที่เหลือแทน
ตอนแรกเจวายพีจะไม่ให้ผมสู้เพราะเป็นมือใหม่
คู่ก็ยังไม่สบายอีก มันอันตรายเกินไป แต่พี่ๆ 2PM ช่วยเกลี้ยกล่อม (รึบีบบังคับ
อันนี้ไม่แน่ใจ -_-“) ให้
ก็เลยตกลงกันได้ว่าจะให้ผมผลัดเปลี่ยนไปช่วยคู่อื่นๆปฏิบัติงาน เหมือนพวกฝึกงานน่ะ
“พี่แจ็คสัน มาพักเหอะ เดี๋ยวพวกผมจัดการเอง”
เสียงแบมแบมตะโกนมาบอกผม จะว่าไปดาบในมือก็เริ่มสั่นแล้วแฮะ
พวกเงาก็ดูจะล่าถอยไปเยอะ สองศรีนั่นคงจัดการต่อได้
“โอเค”
รีบย่นเท้าถอยไปติดเสาไฟฟ้าใกล้ๆ
เก็บดาบรอดูสถานการณ์อยู่ใกล้ๆ บุ้ยปากไปมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นพวกว่างงาน
ก็เจ้าแบมแบมกับยูคเก็บเงาจันทร์ซะเรียบ ไม่รู้ว่าไปเก็บกดที่ไหนมา บ้าพลังจริงๆ
(แกก็พอกันนั่นแหละ -*- ) สอดส่ายสายตาไปรอบๆ ในหัวก็นึกถึงงานสัมมนาเอย
การบ้านเอย รับน้องเอยที่มหาลัย
“หืม...”
ทุกสิ่งในหัวหยุดชะงัก กลิ่นที่แสนคุ้นเคยลอยมาตามสายลม
หัวใจเริ่มเต้นรุนแรงขึ้น กระเด้งตัวจากเสาไฟฟ้าหมุนตัวส่ายสอดไปรอบๆ
แต่ก็ไม่พบร่างใครคนนั้นที่ตามหา ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างผิดหวัง
‘คิดไปเองมั้ง...’
“เฮ้ย!!!”เสียงร้องของน้องสองคนเรียกให้ผมรีบหันกลับไปมอง เบิกตาโตมองภาพเงาจันทร์กว่าสิบตัวมุดดินไปรวมตัวกันจนกลายร่างเป็นเงาจันทร์ขนาดตึกสองชั้น!!!
...อิเช่!
กูนึกว่าสัตว์ประหลาดจากขบวนการหลากสีของญี่ปุ่น อิเช ช็อคก้า!!!!...
นั่งอ้าปากค้างได้ไม่ถึงสามวิก็ต้องรีบดึงสติตัวเองกลับมาเมื่อเห็นว่ายูคยอมโดนมือใหญ่ๆแหวะๆตบจนกระเด็นเซแถดๆไปอีกข้าง
ถึงน้องมันจะรีบลุกขึ้นมาแต่จากสถานการณ์ผมว่าผมควรรีบแจ้งศูนย์ใหญ่นะ
“N98-7
เรียกศูนย์ใหญ่ เงาจันทร์มันรวมกันกลายเป็นตัวใหญ่ๆอ่ะ ทำไง?”
...อย่าด่าผมเลยครับ นี้สื่อสารผ่านวิทยุไม่เป็นจริงๆ...
“ศูนย์ใหญ่ถึง N98-7 น่าจะมีเงาจันทร์ระดับสูงอยู่ในนั้นด้วย
มันมีความสามารถในการรวมเงาจันทร์เป็นตัวใหญ่น่ะ หาเงาจันทร์ตัวนั้นแล้วฆ่ามันซะ ตัวที่เหลือจะตายเอง”เสียงยองแจตอบติดๆขัดๆตามสัญญาณที่ขาดหาย
เจวายพีควรซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆได้แล้วนะครับ
ไอ้วอลกี้ทอคกี้รุ่นละห้าร้อยหกร้อยในตลาดนัดมือสองมันตกรุ่นจูนคลื่นยากแล้วนะครัช
ลงทุนหน่อยโว้ยยย!!!
“แล้วจะให้ทำไง?”
“N23-8
ถึง N98-7 อูยองกับมินจุนกำลังไปเสิรมกำลัง
ขอให้ตั้งสติและควบคุมสถานการณ์ไว้ก่อน...อย่าทำอะไรผลีผลามเข้าใจไหม! ตอนนี้นายไม่มีคู่นะ”เสียงพี่อูยองดังมาตามสาย แถมกำชับเสียงโหดอีกแหนะ
“คร๊าบๆ”ผมตอบแสร้งทำเสียงน่าหมั่นไส้
ได้ยินเสียงพี่อูยองชิชะดังมาแต่แผ่วๆ ผมรีบเก็บวิทยุแล้วกระโดดไปลากแบมแบมที่ล้มใกล้ๆให้ลุกขึ้นมา
ไปรวมกับยูคที่อยู่อีกทาง
“ไอ้ตัวนี้มันต้องไปดูดพลังอะไรมาก่อนแน่ๆ
เก่งชะมัด”เจ้าตัวเล็กบ่นงุบงิบตอนที่ผมลากคอให้กลับมายืนข้างยูค
พอเห็นหน้ากันปุ๊ปคู่รักก็รีบดิ่งไปกอดกันหมับ
...โอเค ผมรู้ว่ากอดเพื่อเพิ่มพลัง แต่มันก็ดูประหลาดอยู่ดีนั่นแหละ
มาสวีทอะไรกันตอนสถานการณ์คับขันฟะ...
“มาสวีทอะไรกันตรงนี้...”
“พี่อ่า คนไม่มีคู่ไม่รู้หรอก”แบมแบมหันมาค้อนกวนตีนใส่ผม
ก่อนตาโตๆนั่นจะเบิกกว้างเมื่อรู้ว่าตัวเองพูดอะไรไม่ดีไป
ทำหูตกหางลู่เหมือนลูกสนัขโดนดุเลยครับ แต่ผมยังไม่ดุเลยนะ
“พี่แจ๊คสัน ผมขอโทษ”
“ช่างเถอะน่า ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย
ไปสนใจไอ้ตัวยักษ์นั่นก่อนเหอะ ดูมันมองเรานิ่งตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ...”
ผมพูดจริงๆนะ
แทนที่มันจะโจมตีพวกเราเหมือนตอนโจมตีแบมแบมกับยูค
พอพวกเรารวมกันสามคนมันกลับยืนจ้องนิ่งๆไม่เข้ามา
“พี่แจ็คสันลอง วิ่งไปฝั่งนู้นดี๊”
“เหอ?”หันไปมองไอ้น้องเล็กตัวยักษ์ที่สั่งผมหน้าตาเคร่งเครียดเชียว
“น่า ผมแค่อยากรู้อ่ะ”
ไม่รู้หรอกนะว่าน้องมันคิดอะไร
แต่น้องก็เป็นนักล่าก่อนผมซะอีก อาจจะรู้อะไรก็ได้
ผมมองตามัน ค่อยๆขยับขาไปไกลจากสองมังเน่ที่ยืนคุมเชิงอยู่ไม่ไกล
ตาของมันเหลือบมองผมเป็นระยะ แต่ลำตัวกลับยังมุ่งไปทางสองคนนั่น
พอผมเร่งความเร็ววิ่งไปด้านหลังมัน หัวใหญ่ก็หมุนตามมาจนหัวมาอยู่ด้านหลัง
สยองสัดๆ!!!
“เฮ้!
ไอ้ตัวใหญ่”แบมแบมเรียกมันจากอีกด้าน
เงาจันทร์ยักษ์รีบหันกลับไปไล่ตะครุบแบมแบมกับยูคยอม สองคนนั่นกระโดดหลบไปคนละทาง
แบมแบมวิ่งมาหาผม ในขณะที่ยูคยอมวิ่งไปทางแสงไฟ
แปลกที่เงานั่นตามยูคยอมไปแทนจากมาทางพวกผม
“จริงด้วยอ่ะ”แบมแบมกระซิบเสียงเบา ผมรีบหันกลับไปมองเขาเพื่อเค้นคำตอบ
แบมแบมทำหน้ากระอักกระอ่วนนิดหน่อย เสียงตอบอึกอักจนน่ารำคาญ “คือ...เงาจันทร์ระดับสูงบางตัวมันจะแสดงลักษณะนิสัย
ความห่วง หรืออะไรบางอย่างที่พวกมันกินไปก่อนหน้านี้ ผมกับยูคยอมเลยคิดว่า... เอ่อ
เงาจันทร์ระดับสูงตัวนี้มันเป็นตัวเดียวกันกับ...เอ่อ...”
“ลิ้นไก่นายเป็นอะไรรึไง”
“เดี๋ยวดิ...เอ่อ อาจเป็นตัวเดียวกันกับที่ทำร้ายพี่มาร์ควันนั้นน่ะ”
“…”
“…”
“โอเค I get it…”
“พี่แจ็คสันไม่เป็นอะไรเหรอ?
ผมนึกว่าพี่จะอาละวาดซะอีก?”แบมแบมดูจะตกใจกับปฏิกิริยาอันเรียบเฉยของคนใจร้อน
แจ๊คสันไม่ตอบอะไรแต่ลุกขึ้นช้าๆ มือขาวกระชากกางเขนบนคออย่างแรง สร้อยสีเงินตกลงบนพื้นพร้อมกับเสียงฟึบของดาบเรียว
“อาละวาดเหรอ? ไม่หรอกน่า~ แต่วันนี้เงาบัดซบนั่นต้องตาย...ด้วยมือกู!!!”
เสียงร้องลั่นพร้อมกับร่างของแจ๊คสันวิ่งพรวดไปใกล้เงาจันทร์
มือขาวกระชับดาบแน่นแทงตรงจนทะลุน่องขาของเงาจันทร์ เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นเมื่อมือขาวบิดดาบเป็นวงกลมบิดเนื้อเน่าๆนั่นเพิ่มความทรมาน
ของเหลวสีดำกระฉอกออกมาพุ่งเปื้อนร่างนั้น
มือยักษ์ตวัดปัดร่างนั่นออกอย่างแรงจนเขาไถลไปกับพื้น
ร้องซี๊ดแสบหลังจนแทบลุกไม่ขึ้น กลิ้งตัวหลบเท้าใหญ่ที่ตามมากระทืบซ้ำ ดาบของเขายังปักคาอยู่ตรงน่อง
มันคงเจ็บจนอาละวาดไปทั่ว
“พี่แจ็คสัน!”เสียงยูคยอมดังขึ้น
แขนด้านซ้ายของมันถูกเฉือนตัดออกกลิ้งลงไปกับพื้น เสียงแหลมสูงโหยหวนจนน่าขนลุก
เลือดสีดำพุ่งออกมาราวน้ำป่าหลาก
แบมแบมทิ้งตัวลงพื้นข้างแจ็คสันพร้อมเคียวเปื้อนเลือด มือขาวคว้าข้อมือคนเป็นพี่ไว้
แต่แจ็คสันสะบัดออก
“พี่! ไม่เอา ตามผมมา เดี๋ยวพวกพี่มินจุนจะมาหาแล้ว
ใจเย็นหน่อย”เสียงเล็กรีบร้องเตือนสติ
“ฉันบอกแล้วว่าฉันจะฆ่ามันด้วยมือฉันเอง! นายน่ะถอย!”เสียงแหบประกาศกร้าว ดวงตาคมทอประกายแข็งขืนไม่ยอมความ
“พี่!”แบมแบมร้องไม่พอใจ กำลังจะว๊ากแล้วถ้าไม่โดนยูคยอมลากออกมาก่อน
“แบมแบม รีบออกมา ให้พี่เขาทำไป...”
ถึงจะดูไม่เต็มใจแต่ยูคยอมก็ลากร่างเล็กนั่นถอยออกไปไกล
จนเหลือแต่แจ็คสันและเงาจันทร์ที่ยังอาละวาดไม่เลิก
แขนด้านที่โดนตัดเริ่มงอกออกมาช้าๆ บอกให้รู้ว่าเงาจันทร์ตัวนี้ฆ่าไม่ง่าย หากไม่โจมตีไปที่จุดกำเนิดร่าง
หรือก็คือเงาจันทร์ระดับสูงตัวนั้น ไอ้ยักษ์นี่ก็ไม่มีทางตาย
…แล้วมันอยู่ไหน...
แจ็คสันกระโดดหลบเท้ายักษ์ที่พุ่งหวังจะเหยียบเขาให้เละคาเท้า
วิ่งอ้อมไปด้านหลังอาศัยความได้เปรียบทางด้านความคล่องตัวกะจังหวะคว้าดาบดึงคืนมาอย่างไร้ความปราณี
ตวัดเฉือนเนื้อตรงน่องนั้นอีกรอบ
เนื้อชิ้นใหญ่กระเด็นหลุดออกมาเป็นภาพสยดสยองที่คงติดตาเขาไปอีกนาน
เมื่อมันชะงักเพราะความเจ็บปวด
แจ็คสันก็รีบกระโดดไปเกาะร่างใหญ่นั่นใช้ดาบแหลมปักแทนเครื่องมือปีนเขาไต่ระดับจนในที่สุดเขาก็สามารถขึ้นมาจนถึงต้นคอมันจนได้
รู้สึกว่าเหนื่อยจนแทบหายใจไม่ออก แต่พลังใจที่ยังโหมกระพือบอกให้เขาสู้ต่อ
มาถึงตรงนี้แจ็คสันสามารถสัมผัสกลิ่นที่เขาเอะใจมาตั้งแต่เมื่อครู่...
...กลิ่นของมาร์ค...
ไม่ทันจะได้เริ่มทำอะไร ร่างทั้งร่างก็ลอยหวือไปกลางอากาศ
ดาบหลุดมือไปกระทบพื้นด้านล่าง ร่างปวดเกร็งเพราะแรงบีบอันมหาศาล
เสียงคำรามของมันยังดังอยู่ข้างหูแต่ตาไม่สามารถลืมขึ้นไปมองได้ เขากำลังโดนบีบ!!!
“พี่แจ็คสัน!”เสียงน้องเล็กสองคนดังขึ้นใกล้ๆ เขาพยายามฝืนเปลือกตาขึ้นมามองเพื่อพบว่าตัวเองกำลังอยู่สูงจากพื้นด้านราวสิบเมตร
ตกลงไปคงไม่ต้องถามถึงสภาพ เจ้าตัวยักษ์อยู่ตรงหน้าเขานี่เอง
และจมูกที่ยังดีอยู่ก็ได้กลิ่นมาร์คใกล้ๆนี่เอง
เรียกให้ถูกคือมือด้านนี้แหละที่จุดกำเนิดกลิ่นหรือไอ้เงาจันทร์ตัวการ! ยิ่งรู้ยิ่งเจ็บจี๊ดในใจเพราะรู้แต่ทำอะไรไม่ได้
สติก็เริ่มจะพร่าเลือนเพราะความเจ็บปวด
อวัยวะภายในถูกบีบรัดจนรู้สึกว่าถ้ามากกว่านี้อีกนิดคงกลายเป็นก้อนเดียวกันไปแล้ว
ได้ยินเสียงอะไรอย่างเอะอะอยู่ด้านล่างแต่เขาไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว
จับใจความอะไรไม่ได้ เสียงรอบตัวเริ่มเบลอเลือนจนจับความไม่ออก
ระบบลมหายใจติดขัดและดูเหมือนจะแผ่วลงเรื่อยๆ
...อ่า นี่ผมแก้แค้นให้พี่ไม่ได้เหรอเนี่ย...
...ขอโทษนะ...
“พี่...มาร์ค...”
+------------------------+ SNH
+------------------------+
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น