[SNH] CH10
+---------------------------------------------------------+
บทที่ 10
พลาด
+---------------------------------------------------------+
“นี่...ในคอกเทลนั่นมียาเหรอ!?”
+------------------------+ SNH
+------------------------+
“นี่...ในคอกเทลนั่นมียาเหรอ!?”
แจ๊คสันอุทานลั่น
ไม่อยากนึกว่าถ้าเขาดื่มมันเข้าไปแล้วมาร์คไม่มาช่วยไว้เขาจะมีสภาพยังไงในตอนนี้
แต่เอาจริงๆ...ตอนนี้ที่เป็นอยู่ก็ใช่ว่าจะดีกว่ากันเสียเมื่อไหร่ล่ะ -*-
ให้ตายเถอะ ที่มาร์ครีบลากผมกลับห้องก็เพราะเขามีอารมณ์เนี่ยนะ?
จู่ๆมาร์คก็ผละออกไปจากตัวผม
ก้าวถอยหลังจนไปติดเคาท์เตอร์ห้องครัว เขาจิกขาตัวเองแน่น เสียงแหบพร่าเอ่ยไล่ผม
“รีบเข้าห้องไป เร็ว!”
“ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ?”
“แจ๊คสัน อย่าดื้อตอนนี้!”มาร์คดุเสียงหนักแน่นกว่าทุกครั้ง
แต่ผมยังนั่งนิ่ง มองร่างสูงที่ตอนนี้ดูจะทรมานเอามากๆ
ยาที่ผู้หญิงคนนั้นใช้คงแรงน่าดูถึงสามารถเปลี่ยนมาร์คให้เป็นถึงขนาดนี้ได้
“นายไม่อยากเจ็บตัวตอนนี้หรอกใช่ไหม”
“ไม่เชิง”
“แจ๊คสัน!”
“อย่าดุนักเลยน่า”ผมบุ้ยปากลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ
จนหน้าอกเราชิดติดกัน มาร์คเงยหน้ามองผมอึ้งๆ ก็แหงล่ะ
ทำแบบนี้ก็เหมือนจะพลีกายพร้อมเสียตัวเลยนี่นะ -*-
ถึงจะไม่ได้กรีดกายยั่วเย้าเหมือนพวกผู้หญิงก็เถอะ แต่ก็นะ...ผมตัดสินใจแล้วนี่
“ให้ผมช่วยนะ”ร่างเล็กเอ่ยเสียงเบายกมือขาวขึ้นไล้กรอบหน้าหล่อของคนตัวสูงที่ตอนนี้ไม่ทนอีกต่อไป
มือแกร่งคว้าหมับเข้าที่ข้อมือข้างนั้นดึงร่างเล็กกว่าเข้ามาประทับจุมพิตแนบแน่น
เรียวปากสวยบดขยี้ริมฝีปากนุ่มอิ่มแดง ฟันขาวขบกัดบนริมฝีปากล่างเบาเป็นเชิงหยอกเย้าก่อนส่งปลายลิ้นเข้าไปพัวพันกับโพรงปากหวาน
แจ๊คสันขย้ำคอเสื้อมาร์คแน่นจูบตอบแบบไม่ยอมแพ้
รสจูบทวีความร้อนแรงเพิ่มมากขึ้น เสียงน่าอายจากการดูดดึงดังก้องทั่วห้อง
แต่ไม่มีใครสนเรื่องอายไม่อายแล้วล่ะ แจ๊คสันจะไม่โทษว่าเพราะแอลกอฮอล์ทำให้ขาดสติ
มาร์คก็จะไม่โทษว่าเพราะโดนยาปลุก รสสัมผัสและความรู้สึกที่ส่งถึงกันตอนนี้
ทั้งสองไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันคือความผูกพัน...ที่มากกว่าความสัมพันธ์ทางกายเพียงอย่างเดียว
เสื้อนอกของทั้งสองถูกปลดออกไปแล้ว
เช่นเดียวกับเข็มขัดและหัวกระดุมกางเกงยีนของมาร์คที่ถูกมือซุกซนปลดเล่น
มือแกร่งลูบไปตามโครงหน้าหวานไล่ลงมาที่ไหล่ลาด วกกลับมาบีบนวดตรงสะโพกสวย
เสียงครางเครือยามที่ริมฝีปากอุ่นย้ายลงมาแนบลบบนคอขาวเรียกอารมณ์ในกายให้โหมกระพือจนอดไม่ได้ที่จะประทับรอยบนคอไร้ตำหนินั่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“งื้อ อย่าทำรอยตรงนั้นสิ”แจ็คสันร้องโวยวาย
มือพยายามจับดันหน้ามาร์คออกจากซอกคอตน
“ไม่ทันแล้ว”เสียงพร่าเอ่ย ไม่สนใจคำร้องขอนั้น
ไล้ลิ้นร้อนเลียตรงรอยแดงนั่นอีกรอบอย่างชอบใจ ยกแขนคนเตี้ยกว่าให้คล้องคอเขาไว้
ประสานมือตรงสะโพกออกแรงอุ้มแจ็คสันขึ้น
ขาของคนโดนอุ้มรีบรัดสะโพกสอบเอาไว้กันตกด้วยสัญชาติญาณ มือกระชับแน่น
จมูกรั้นซบลงบ่าแอบสูดดมกลิ่นกายคนตัวสูง
มาร์ควางร่างแจ็คสันลงบนเตียงนอนหลังใหญ่กลางห้อง
ลงนั่งคร่อมขาคนตัวเล็กเอาไว้ มือก็ถอดเสื้อยืดตัวเองออกเขวี้ยงทิ้งไปทางมุมห้อง
ทั้งหมดอยู่ในสายตาของแจ็คสันที่นอนมองตาแป๋ว มาร์คหันกลับมามองอย่างเอ็นดู
ก้มลงหอมแก้มใสหนึ่งฟอดใหญ่
“กลับไม่ได้แล้วนะ”
“หยุดถามได้แล้วน่า อยากเป็นคนด้านล่างแทนไหมล่ะ?”
“ถ้ากดพี่ได้ก็เชิญเถอะ”คนตัวสูงหัวเราะในลำคอ
ประทับจูบปิดปากเด็กช่างจ้ออีกครั้ง
นิ้วเรียวลากไล้ผ่านตรงเส้นสันหลังทำเอาแจ๊คสันบิดร่างกายด้วยหวิวตรงช่วงท้อง
มาร์คลอกคราบเจ้าเด็กดื้อจนเหลือแต่ตัวเปล่าๆบนที่นอนขาว ผิวขาวใสสุขภาพดีที่แม้แต่หญิงสาวยังต้องอิจฉาอยู่บนเรือนร่างสมส่วน
กล้ามเนื้อสวยจากการเล่นกีฬาไม่มีแม้กระทั่งส่วนเกินให้รกตา แจ็คสันถลึงตาใส่เมื่อเห็นว่าสายตาคนตัวสูงมองตัวเองอย่างไร
“สายตาโคตรหื่นอ่ะ”
“ก็เด็กมันน่าหื่นใส่ พี่ไม่ผิดสักหน่อย”หัวเราะขำเมื่อเห็นเด็กช่างจ้อหุบปากเงียบ
แก้มกลมแดงก่ำ ถลึงตาขู่ เหมือนจะโหดนะ แต่เหมือนลูกหมาขู่มากกว่า
น่ารักน่าฟัดชะมัด
คิดแล้วก็ฟัดหอมคนตัวขาวด้านใต้อย่างหมั่นเขี้ยวจนคนตัวเล็กหัวเราะคิดคัก
ร้องเหวอเมื่อโดนจูบปิดปากอีกรอบ
ความร้อนแรงที่มาพร้อมกับความอ่อนหวานทำให้หลับตาเคลิ้มได้ไม่ยาก มือแกร่งลูบไล้สร้างอารมณ์ไปทั่วร่างกายขาวนวดเฟ้นสะโพกเพื่อเตรียมพร้อม
แม้ว่าตอนนี้ส่วนกลางลำตัวจะปวดหนึบจนแทบจะทนไม่ไหว
แต่จะให้แจ๊คสันมาเจ็บตัวตั้งแต่ครั้งแรกเขาก็ไม่เอาเหมือนกัน
แต่อยู่ดีๆเจ้าตัวดีก็ลืมตาพรึบเหมือนนึกอะไรออก
ก้มหน้าลงมามองส่วนล่างของเขาที่กำลังตื่นตัวอยู่พอดี
“มองอะไรเด็กลามก”
“ด่าตัวเองอยู่รึไง”
“หึหึ”เออ เอาสิ จะเสียตัวอยู่แล้วยังมากวนกันได้
ถ้าไม่ใช่แจ็คสันหวังนี่ไม่มีเสียหรอก
“เฮ้ย!”ร้องลั่นเมื่อมือขาวตะปบลงบนส่วนนั้นหมับ
มาร์ครีบยึดมือข้างนั้นไว้มองเด็กแสบใต้ร่างปรามๆ
“หน้าที่พี่ พี่ทำเอง นอนนิ่งๆครางไปก็พอแล้ว”
“มันไม่ใช่แนวอ่า”แจ๊คสันยังคงงอแงงุ้งงิ้งอยู่ข้างหู
มาร์คสูดกลิ่นกายคนตัวเล็กบนซอกคอขาว พลิกร่างเล็กให้นอนคว่ำหน้า
ไล้มือไปตามหลังเนียนตามด้วยริมฝีปากร้อนที่ประทับรอยจูบตามทางที่ลากผ่านจนหลังขาวเต็มไปด้วยรอยสีกุหลาบ
“อื้อออ!!!”แจ็คสันกัดฟันแน่นเมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลัง
สะโพกสวยเขยิบหนีแต่โดนมือแกร่งรั้งเอาไว้ มาร์คก็อดกลั้นไม่แพ้กัน
เรือนร่างที่ยั่วเย้าอย่างไม่ตั้งใจของคนตรงหน้าทำเอาแทบคลั่ง
ช่างเป็นสถานการณ์ที่ยากจะอดทนจริงๆ มาร์คพลิกร่างขาวขั้นมาอีกรอบเมื่อแน่ใจว่าร่างเล็กพร้อมแล้ว
บังคับมือขาวให้ไปแปะอยู่แผ่นหลังเขา กระซิบพร่าข้างหูเล็ก
“พี่สละหลังกับไหล่ให้ ถ้าเจ็บข่วนเลยไม่ต้องออมแรง”
“หืม? อะ อ๊า!!!!”ไม่มีเวลาได้สงสัยเมื่อมือแกร่งยึดสะโพกเขาไว้ก่อนส่งตัวตนสอดแทรกเข้ามา
ร้องลั่นมือจิกหลังคนตัวสูงแน่นระบายความเจ็บจากส่วนล่าง
แม้จะเบิกทางมาแล้วก็ใช่ว่าไม่เจ็บเลย
มาร์คกัดฟันอดทนค่อยๆทำอย่างใจเย็น
แต่เหมือนจะไม่ทันใจคนตัวเล็กที่กัดฟันแน่นผลักร่างสูงให้ลุกขึ้นนั่ง
กอดคอมาร์คเอาไว้แล้วมั่นและกระแทกกายลงให้ส่วนนั้นเข้ามาในกายพรวดเดียว
“อ๊า!!!!!”กัดบ่าแกร่งระบายความเจ็บ
น้ำตาอุ่นไหลรื้นลงมาตรงหางตา มาร์คจูบซับน้ำตานั้นให้
มือก็ลูบศีรษะคนตัวเล็กปลอบประโลม “เด็กดี เด็กดี” แช่รอจังหวะเหมาะขยับกายเข้าออกอย่างพยายามทะนุถนอมคนในอ้อมแขนให้มากที่สุด
ไม่ลืมจะเปรอปรนคนตัวเล็กให้มีอารมณ์คล้อยตามไปด้วย
ก่อนจังหวะจะเริ่มเร่งเร้าถี่ร้อนขึ้น
เสียงครางเครืออืออาของคนตัวเล็กดังข้างหูเร่งอารมณ์ให้พุ่งทะยาน
“เรียกชื่อพี่”
“มาร์ค อือ...อ๊า! มาร์ค!”เสียงพร่าเต็มไปด้วยอารมณ์ส่งเสียงร้องเพ้อครวญตามคำขอคนนำเกม
“แจ็คสัน”
ความอุ่นร้อนถูกฉีดใส่เส้นทางด้านหลังอุ่นท้องวาบ
ไม่ต่างจากคนตัวเล็กที่ปลดปล่อยออกมาเต็มมือแกร่ง
แจ๊คสันซบหน้าลงบนบ่ามาร์คหอบแฮกยิ่งกว่าวิ่งห้าสิบรอบสนามกีฬา
ปล่อยให้คนตัวสูงเลาะเล็มตามใบหน้าตัวเองตามสบาย ยังไงแม่งก็เสียตัวให้แล้ว
เรื่องแค่นี้ไม่ถือหรอก!
“เปื้อนหมดเลย”หลับตาบ่นเมื่อรู้สึกว่าไอ้ของเหลวขุ่นด้านหลังมันเริ่มไหลลงมาตามเรียวขาเปรอะผ้าปูที่นอน
“รอบหน้าจะใส่ถุงยาง”
“ไม่มีรอบหน้าแล้วโว้ยยยย”ดีดตัวขึ้นมาโวยวายเสียงดังก่อนร้องโอดโอยซบลงบ่าที่เดิมเพราะลืมว่ายังเจ็บไม่หาย
แถมมาร์คยังไม่ถอนตัวออก
“หืม? เหรอ งั้นรอบนี้อีกยาวๆแล้วกันเนอะ”เสียงเจ้าเล่ห์ดังขึ้นใบหูเล็ก
เปลือกตาบางกระชากพรึบ ตั้งใจจะปฏิเสธแต่โดนมาร์คกดลงบนเตียงนุ่ม
มือแกร่งกดข้อมือเขาแน่น
ตาสวยที่มักจะเฉยชาตอนนี้กลับพราวระยับอย่างจิ้กจอกเจ้าเล่ห์ในนิทานปรัมปรา
...ไม่รอดแน่...
“มะ ม่ายยยยยยยยยยยยย”
“อะ อื้อ อ๊า!”
แล้วเสียงครางเครือก็ดังอย่างนี้ไปจนถึงครึ่งค่อนคืน…
****
มาร์คเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงมองเด็กดื้อที่สลบไศลไปแล้วด้วยแววตาอ่อนโยน
มือลูบผมนิ่มแผ่วเบา แอบแสบหลังกับเจ็บตรงรอยกัดนิดๆ แต่เชื่อเถอะเจ็บได้ไม่เท่าไอ้ตัวเล็กนี่ตอนตื่นเช้าขึ้นมาหรอก
ได้โวยวายงอแงห้องแตกแน่ๆ
มองนาฬิกาติดผนังบอกเวลาตีสาม
น่าจะถึงเวลานอนของเขาแล้วเหมือนกัน แอบหอมแก้มนิ่ม กระซิบบอกอย่างทุกวัน...
“ราตรีสวัสดิ์นะครับ กากาของอี้เอิน”
กำลังจะล้มตัวนอนเสียงริงโทรโทรศัพท์ที่ตั้งเอาไว้เฉพาะเพื่อนในกลุ่มก็ดังขึ้นมา
รีบกดรับเพราะกลัวแจ็คสันจะตื่น ฟังประโยคร้อนรนในนั้นสามสี่ประโยคแล้ววางสาย
ใบหน้าหล่อตึงเครียดขึ้นมาทันใด มองคนตัวเล็กอย่างชั่งใจ
ตวัดผ้าห่มหนาคลุมร่างที่กำลังตกในห้วงนิทรา แล้วลุกออกไปอาบน้ำแต่งตัว...
+------------------------+ SNH
+------------------------+
รถออดี้สีดำดริ๊ฟรถดังเอี๊ยดมองเข้าไปในบริเวณบ้านยองแจที่ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยสีดำของเงาจันทร์
คำนวณเวลาคร่าวๆแล้วพวกเจบีน่าจะมาถึงที่นี่ในอีกสิบนาที พวกพี่ๆ2PMคงมาเร็วกว่านั้นนิดหน่อย แต่ถ้าขืนรอกำลังเสริมก็เหมือนจะไม่ทันการณ์
ร่างสูงปลอดล็อคอาวุธเรียกสนับมือขึ้นมาใช้งานแล้วพุ่งเข้าฟาดฟันพวกเงาจันทร์ที่โผล่ขั้นมาขวางทาง
“โอ๊ยยย นายน่ะอย่าร้องได้ไหมมันน่ารำคาญ!!!”ยองแจตวาดเสียงสูงใส่นิคที่ร้องอ๊ากๆทุกครั้งที่พวกเงาจันทร์มันโผล่ขึ้นมาจากพื้น
ทั้งๆที่ตัวเองอยู่ในที่ปลอดภัยอย่างใต้แสงไฟแท้ๆนะ
“ก็แล้วไอ้พวกนี้มันตัวอะไรกันเล่า! แล้วนายเป็นใคร”
“ถ้านายไม่เงียบฉันจะเปลี่ยนจากฟันคอไอ้พวกนี้แล้วไปปาดคอนายแทน”ขู่เสียงเรียบ
ตวัดแซ่ฟาดไอ้เงาจันทร์สองตัวให้ดับสูญไป
สถานการณ์ตอนนี้คือพวกเขาอยู่สวนหลังบ้านเล็กๆที่เต็มเอี๊ยดแน่นขนัดไปด้วยพวกเงาจันทร์น่าตาน่าขยะแขยง
ไม่รู้ว่าพวกมันรู้ได้ยังไงว่านิโคลัสอยู่กับเขา ถึงได้รวบรวมพลกันมาไวขนาดนี้
โทรไปหาพวกพี่ๆ2pm และพวกGOT7 แล้ว แต่ไม่รู้จะมาทันรึเปล่าเนี่ยสิ -*-
ฝูงเงาจันทร์แตกฮือจากทางด้านในบ้านเรียกให้ยองแจตวัดสายตาไปมอง
น่าจะเป็นหนึ่งในคนที่เขาเรียกมา
และไม่ผิดเมื่อคนที่ปรากฏตัวด้วยการกระโดดเหยียบหัวเงาจันทร์เข้ามาในวงล้อมก็คือมาร์ค...แล้วไหนแจ็คสัน?
“พี่มาร์ค แล้วพี่แจ็คสันล่ะ?”
“ฉันไม่ให้มา”มาร์คตอบเรียบๆ ตวัดหมุนตัวฆ่าเงาจันทร์ที่จุ้นจ้านเข้ามาตอนพวกเขากำลังคุยกัน
“เฮ้ย! ได้ไงอ่ะพี่ ถ้าพี่แจ็คสันไม่มา พี่จะแย่นะ”
“นายก็ยังไม่มีคู่”
“ไม่เหมือน!
พี่ก็รู้ดีนี่ว่าพวกนักล่าที่ยังหาคู่ไม่เจออย่างผมอย่างน้อยก็สู้ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
แต่พวกที่มีคู่ สู้เดี่ยวๆได้คนละไม่เกินสิบห้านาทีนะ!”ยองแจร่ายกฎที่เขาได้ฟังมาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้งใส่คนเป็นรุ่นพี่ที่ยังนิ่งเฉยต่อคำเตือนนั้น
“สู้ไปเถอะ..”มาร์คพูดแค่นั้นแล้วเข้าไปตะลุมบอนในดงเงาจันทร์ที่เหมือนจะผุดขึ้นมาแบบไม่มีขีดจำกัด
ยองแจแทบกรี๊ดใส่คนที่บังอาจเมินเขา
ตวัดแส้รุกไล่ฟาดฟันไอ้ตัวที่มาวุ่นวายรอบตัวนิโคลัสมือเป็นระวิง
เขาก็น่าจะทนได้ไม่เกินสิบนาทีนี้แน่ๆ ของให้พวกพี่ๆมาให้ทันเถอะน่า!
“ชิ”
มาร์คสบถในลำคอเมื่อสนับมือทั้งสองข้างเริ่มคงสภาพไม่อยู่
ใบมีดเริ่มส่ายสั่นไปมา เขาก้มตัวลงระดับเอว
กางแขนหมุนตัวตวัดฆ่าเงาจันทร์รอบข้างไปสิบกว่าตัวก่อนที่ใบมีดจะสลายหายไป
มาร์คยันตัวกระโดดกลางอากาศเข้าไปกลางวงอีกรอบ มองยองแจที่เริ่มจะตึงมือ
แส้ในมือสั้นบ้างยาวบ้างเป็นสัญญาณเตือนว่าพลังจะหมดในไม่ช้านี้
ในขณะที่สถานการณ์เริ่มเข้าขั้นวิกฤต ความวิบัติก็มาเยือน
แส้ของยองแจสลายหายไปแล้ว
พวกเงาจันทร์พุ่งเข้ามาทันทีเมื่อเห็นว่านักล่าไม่มีอาวุธแล้ว
ทันใดนั้นลูกธนูนับร้อยก็พุ่งเข้ามาปักพื้นที่รอบตัวคนทั้งสามไว้ราวกับเป็นอาณาเขต
“พวกเรามาทันใช่ไหม?”เสียงทุ้มดังขึ้นบนชั้นสอง
จุนเคยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมสไนเปอร์คู่ใจกำลังส่องเล็งกราดกระสุนลงด้านล่าง
เล็งๆไปเถอะยิงไปทางไหนก็โดนอ่ะ -*-
“ตายซะ!”ร่างของจุนโฮปรากฏขึ้นอีกคน เขาประกาศกร้าวยกคันธนูขึ้นเหนี่ยวคันศรแบบไม่เล็งแต่หวังผลแบบวงกว้าง
ทันทีที่นิ้วมือเรียวปล่อยสายลูกศร
แสงสีฟ้าก็สว่างวาบพุ่งทะยานกลายเป็นลูกศรระเบิดฆ่าพวกเงาจันทร์ตายกันเป็นเบือ
เป็นเวลาเดียวกันกับที่กลุ่มเงาจันทร์อีกด้านก็โดนฆ่าจากทวนหนักในมือของชานซอง
“ไอ้พวกนี้มันมาจากไหนเยอะแยะ”อูยองบ่นงึมงำขณะที่รำดาบคู่ฆ่าเงาอีกตัว
อีกตัวและอีกตัว ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่
“เหลือไว้ให้พวกฉันสอยด้วยสิ”เสียงขี้เล่นของแทคยอนดังขึ้นมาจากหลังคาหลังบ้าน
ร่างสูงสองร่างจับยืนเด่นอยู่ตรงนั้น นิชคุณกระโดดลงมาร่วมวงไพบูลย์ข้างล่าง
ขณะที่แทคยอนยืนมอบความตายมาจากด้านบนหลังคา
เพียงไม่นานพวกเงาจันทร์ที่โผล่ขั้นมาแบบมืดฟ้ามัวดินเมื่อครู่ก็เหี้ยนราบคาบไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว…
จูเนียร์ แจบอม แบมแบมและยูคยอมเดินออกมาจากในบ้าน
“พวกเราตามเก็บไอ้พวกที่ซ่อนอยู่ในบ้านหมดแล้วครับ”แจบอมรายงานพวกพี่ๆที่พักหน้ารับรู้
ทุกสายตาหันไปมองนิโคลัสที่แข้งขาอ่อนนั่งกองไปกับพื้น
“ปลอดภัยแล้ว ปลอดภัยแล้วสินะ”บ่นพึมพำดีใจจนแทบร้องไห้
ผิดกับเมื่อครู่ที่แทบหลั่งน้ำตาเพราะความกลัวตาย
“ระวัง!”มาร์คตะโกนก้อง
วิ่งไปฉุดแขนนิโคลัสให้หลบอะไรบางอย่างทัน แต่เป็นเขาเองที่โดนการโจมตีนั้นแทน!
“พี่มาร์ค!!!!!/มาร์ค”
+------------------------+ SNH
+------------------------+
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น