[SNH] CH01
+---------------------------------------------------------+
บทที่ 1
นักล่าเงาจันทร์
+---------------------------------------------------------+
“ฉันจะอธิบายให้นายฟังจนนายแจ้งในรสธรรมเลยล่ะ
แต่ก่อนหน้านั้นนายต้องไปกับเรา หวัง เจียเอ่อ”
+------------------------+
SNH +------------------------+
สวัสดีครับ
ท่านผู้อ่านทุกท่าน อยากรู้ป่ะว่าผมเป็นใคร อยากรู้จักคนหล่อใช้ม้า
(ยักคิ้วหลิ่วตา/บอกมาเถอะ) ผมแจ๊คสัน หวังครับ แต่ชื่อจีนผมชื่อหวังเจียเอ่อ
ชื่อเล่นแจ๊คสัน ใครเรียกไอ้สั้นผมตบนะ =*=
เห็นผมบ้าๆบอๆแบบนี้แต่ผมเป็นถึงอดีตนักกีฬาฟันดาบทีมชาตเยาวชนฮ่องกงนะคร๊าบ
ผมเทพป่ะล่ะ
ผมเป็นฮ่องกงแท้ครับแต่มาเรียนอยู่ที่เมืองไทยเพราะป๊าบอกอยากให้ผมมีประสบการณ์
แล้วเป็นยังไงล่ะครับป๊า มาอยู่ไม่ทันถึงเดือน
แค่เดินออกจากห้องมาหาซื้อเต้าฮวยโดนซอมบี้จะกินหัวเข้าให้
เป็นประสบการณ์ที่หวังจะไม่ลืมเลยฮะป๊า (กัดฟันกรอด)
...เกือบตายเพราะเต้าฮวย
ดีจริงๆไอ้หวัง...
แต่ก็มีพลดีมาช่วยไว้ทัน
เอิ่ม จะเรียกว่าพลเมืองได้ไหม
ดูเหมือนจะเป็นองค์กรลับหรือกลุ่มผู้ร้ายข้ามชาติเลยบอกไม่ถูก
ท่าทางมีพิรุจเหลือเกิน
ถึงอย่างนั้นตอนนี้ผมก็กำลังเดินตามชายชุดดำสองคนต้อยๆไปตามตรอกซอกซอยที่ไม่รู้ว่าจะสับสนไปไหน
ตัดเป็นเส้นตรงไม่ได้รึไงถนนเนี่ย!!! ตลอดทางทุกอย่างตกอยูในความเงียบ
สองคนข้างหน้าไม่พูด ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรเหมือนกัน
จนสองคนนั่นพาผมมาหยุดอยู่หน้าคลับแดนซ์เล็กๆตรงหัวมุมถนนดูโคตรไม่น่าสนใจ
“ที่นี่เหรอ?”ผมถามคนที่ชื่อเจบี
เพราะอีกคนเงียบจนผมไม่กล้าพูดอะไรด้วย
“ที่นี่แหล่ะ”เขาพูดแค่นั้นก่อนจะดันผมเข้าไปด้านใน
ภายในคลับมีคนเพียงกี่คนจนเรียกได้ว่าใกล้เป็นคลับร้าง
การตกแต่งเป็นแนวสตรีทบาสเท่ๆ แสงไฟสีส้มวูบวาบสร้างบรรยากาศไม่ให้ในนี้สลัวจนเกินไป
มีสนามบาสเล็กๆตรงกลางร้าน มุมหนึ่งก็ยังมีตู้เกมตตั้งเรียงกันเป็นตับ
เสียงดนตรีไสต์ฮิปพอพผสมแนวป๊อปนิดๆทำผมแอบโยกหัวตาม
แอบคิดไม่ได้ว่าที่นี่น่ามาเที่ยวใช่ย่อยเลย
เจบีเดินไปทักชายกลางคนที่กำลังโยกเย้วๆอยู่ในบูธดีเจ
ชายคนนั้นเหลือบมามองผมอย่างพิจารณาครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าอนุญาตให้เจบี
ข้อมือของผมถูกคนที่ผมยังไม่รู้จักชื่อจับไว้ให้เดินตามเขาเข้าไปด้านบนร้านที่กั้นห้องเอาไว้เป็นส่วนตัว
เจบีเลี้ยวเข้าห้องที่มีป้ายแขวนเอาไว้ว่า GOT
“มาแล้วเหรอหัวหน้า”เสียงทักของใครบางคนดังขึ้นด้านในก่อนผมจะเดินเข้าไป
ทันทีที่คนในห้องเห็นผมก็ออกอาการงงๆ มองหน้าประมาณว่าหมอนี่มันใครกันวะ
“เจบีฮยองคนนี้ใครอ่ะ”
“ให้ไอ้มาร์คแนะนำแล้วกัน”เจบีเอ่ยปัดๆทุดตัวลงข้างคนหน้าตาน่ารักอีกคนที่หันมายิ้มให้เขาจนเห็นรอยย่นตรงหางตานิดๆ
“พี่มาร์คนี่ใครอ่ะ”เด็กหัวทองผิวแทนนิดๆคนเดิมเอ่ยถามซ้ำ
อ้อ
คนที่ช่วยผมไว้นี่ชื่อมาร์คเหรอ? เดี๋ยวนะ ผมว่าผมคุ้นชื่อนี้อยู่นะ
แต่คิดไม่ออกอ่ะ
“แจ๊คสัน
หวัง...”
“...ขอคำขยายความมากกว่านี้ด้วยครับพี่”คนตัวสูง
(มาก) อีกคนข้างเด็กคนเมื่อกี้เอ่ยขึ้นหลังรอคำตอบของมาร์คจนเกิดหลุมอากาศในการสนทนา
“คู่ฉัน”
“หืม?/หา!/คู่พี่มาร์ค/”หลากหลายคำอุทานดังขึ้นพร้อมกัน
ตาแต่ละคนนี่เบิกกว้างแบบไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่
...แล้วพูดเรื่องอะไรกันวะ
กูไม่เข้าใจ!...
“คู่อะไร? ไหนบอกจะอธิบายให้ฉันฟังไง?”ผมท้วงกับมาร์คที่พยักหน้าให้ผมนิดๆ
จูงมือผมไปนั่งโซฟาแล้วเขานั่งลงข้างๆกัน แต่ยังไม่ยอมถอดผ้าปิดหน้าออก
“ถ้าจะให้อธิบายคงต้องอธิบายตั้งแต่เรื่องพื้นฐานล่ะนะ
นายเห็นไอ้ที่เหมือนซอมบี้นั่นใช่ไหม? พวกนั้นเราเรียกว่า ‘เงาจันทร์’ หรือ ‘เงา’ เกิดจากจิตใต้สำนึกที่เศร้าโศก ผิดหวัง อาฆาต ท้อแท้ของมนุษย์
มารวมตัวกันจนกลายเป็นรูปธรรมคือพวกเงาจันทร์นี่แหล่ะ
ที่อยู่ของพวกมันคือเงาที่ไม่ขยับ พวกเงาตึกเงาต้นไม้น่ะ ที่สำคัญคือพวกนี้กลัวแสง
พวกมันเลยไม่ออกมาในตอนกลางวันแต่จะออกมาเพ่นพ่านในตอนกลางคืน”
“แล้วพวกมันมาโจมตีฉันทำไม?”
“นายมีสิ่งที่มันต้องการสูง...”เจบีตอบขณะจ้องหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆ
“สิ่งที่มันต้องการ?”
“ความฝัน
ความหวัง ความสุข...เพราะพวกมันเกิดจากด้านลบของมนุษย์
มันเลยกินด้านบวกของมนุษย์แทน แล้วนาย”เขาชี้มาที่ผม “ก็มีมันเยอะ”
...เอิ่ม ผมไม่เคยคิดว่าที่ตัวเองเป็นพวกบ้าบอคอแตก
มีความสุขกับชีวิตไปวันๆจะเป็นอันตรายกับตัวเองจนถึงวันนี้อ่ะนะ
นี่กูผิดที่มีความสุขว่างั้น?...
“แล้วพวกนายอ่ะ?”
“เรื่องนั้น...จูเนียร์ช่วยพี่หน่อยนะ”เจบีหันไปบอกคนน่ารักข้างกายที่พยักหน้านิดๆ
“พวกเราเป็นนักล่าเงาจันทร์อยู่ในสังกัด
SNH
ชื่อเต็มก็ Shadow night hunter เป็นหน่วยงานลับของตำรวจโลก
หน้าที่หลักก็คือตรวจสอบและกำจัดพวกเงาจันทร์ที่ออกอาละวาด
หน้าที่รองคือตามหานักล่าเพิ่ม เพราะองค์กรเราเพิ่งก่อตั้ง
จำนวนนักล่าจึงน้อยเอามากๆ ที่มีตอนนี้ก็มีแค่ กลุ่ม MISSA 2PM 2AM WG อ้อ มี 15& ด้วย รวมๆก็ยี่สิบกว่าคน
อันนี้ไม่รวมพวกเรานะ...”
“ฉันถามถึงพวกนายนะ”ผมขมวดคิ้ว
“นายนี่น้า...ฟังให้จบก่อนสิ”จูเนียร์ทำหน้ายุ่งยากใจ
“พวกนักล่าจะเป็นคนที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวสูง มีพลังขับเคลื่อนศัสตราวุธที่ใช้กำจัดเงาได้
แล้วก็คนที่เป็นนักล่าด้วยกันเองเท่านั้นถึงจะสัมผัสได้ว่าเป็น
ส่วนใหญ่พี่เจวายพีจะเป็นคนตามหาเอง... นายเห็นคนที่อยู่ที่บูทดีเจใช่ไหม
นั่นหัวหน้าองค์กรเรา พี่เจวายพีน่ะ”
“ตาลุงหน้าลิงนั่นอ่ะนะ!”ผมเผลอโพล่งออกมาด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง ตาลุงที่แต่งตัวแปลกๆท่าทางไม่ปกติแบบนั้นอ่ะนะ
หัวหน้าองค์กร!?
คนในห้องขำพรืดหัวเราะเสียงดังแบบกลั้นไม่อยู่
โดยเฉพาะไอ้คนตัวสูงสุดในห้องที่หัวเราะได้โอเวอร์แอคติ้งมาก
“หึหึ เออ
นั่นแหล่ะ คนนั้นแหล่ะ แต่อย่าไปพูดกับพี่เขาแบบนั้นเชียวนะ โอ๊ยยย นายนี่จี้ชะมัด”เด็กผมทองช่างถามคนนั้นเอ่ยกับผมแล้วกลับไปหัวเราะอิ๊กอั๊กกับเด็กตัวสูงนั่นต่อ
ก่อนจูเนียร์จะกระแอมเรียกให้ทั้งห้องกลับมาเงียบเหมือนเดิม
“แล้วก็นักล่าจะมีคู่
อันนี้พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นมายังไง
แต่ที่รู้ตอนนี้คือแต่ละคนจะมีคู่ของตัวเอง แต่ละคู่จะสามารถให้พลังแก่กันได้
เหมือนเครื่องชาร์ตแบตประจำตัว ฉันกับพี่เจบี แบมแบมกับยูคยอม ยองแจยังหาคู่ไม่ได้
แล้วก็นายกับพี่มาร์ค”
“ฉัน?”
“ใช่
นายก็เป็นนักล่าเหมือนกัน อ้อ ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนะ
เพราะนายรู้ความลับขององค์กรเราหมดแล้ว"เจบีพูดขึ้นท่าทีจริงจังจนอดอึดอัดไม่ได้
โดยเฉพาะดวงตาเรียวคู่นั้นที่เปล่งไปด้วยพลังกดดันอันร้ายกาจ
“เฮ้! มัดมือชกกันนี่”
“ยอมรับว่ามัดมือชก
นายต้องเป็นนักล่า ไม่อย่างนั้นฉันจะโยนนายไปให้พวกเงากิน”
“นี่คู่ฉัน”มาร์คเอ่ยขึ้นหลังเงียบมานาน
กระชับแขนผมเอาไว้ข้างตัว เจบีจิ๊ปากขัดใจเล็กน้อย
“เออ
นั่นแหล่ะ ตกลงจะยอมไม่ยอม”
“กะทันหันไปป่าวเฮ้ย!
ขอเวลาคิดหน่อยดิ”
“พี่เจบี”จูเนียร์จับแขนเจบีมองหน้าคู่ตัวเองอ้อนวอนเล็กๆ
เจบีถอนหายใจเฮือก แล้วหันมาพูดกับเขาต่อ
“เออ! ก็ได้ฉันให้เวลาถึงสามทุ่มพรุ่งนี้ นายต้องมาที่คลับนี้
พวกฉันจะมารอนาย”เขาพูดแค่นั้นแล้วลากตัวจูเนียร์ออกไปด้วยท่าทีฉุนเฉียว
ผมมองตามทั้งคู่ไปด้วยความเป็นห่วง
เจบีดูขี้โมโหจัง จูเนียร์จะเป็นอะไรรึเปล่าน่ะ?
“ไม่ต้องห่วงหรอก
พี่เจบีทำอะไรพี่จูเนียร์ไม่ได้หรอก
เห็นอย่างนั้นล่ะหวงแฟนจะตาย”แบมแบมพูดกับผมขณะเคี้ยวขนมหยับๆ มือก็ป้อนใส่ปากยูคยอมไปด้วย
มีความสุขเหลือเกินนะไอ้สองคนนี้น่ะ
“แฟน?
สองคนนั้นเป็นแฟนกันเหรอ?”
“อืมใช่
ส่วนใหญ่นักล่าที่เป็นคู่กันจะเป็นคู่ครองกันด้วย ไม่รู้ดิ
อาจเป็นเพราะใกล้ชิดกันมากล่ะมั้ง”
“แล้วคู่นาย...”
“ผมกับยูอ่ะเหรอ?
อืม ยังไม่ถึงมั้ง แต่ก็คงอีกไม่นาน”เด็กนั่นตอบหน้าตายราวเรื่องที่พูดเป็นเรื่องจะไปกินข้าวที่ไหน
นอนที่ไหนอย่างนั้นแหล่ะ ผิดกับยูคยอมที่แก้มแดงทำท่าม้วนต้วนอยู่นั่น =*=
เดี๋ยวนะ
แล้วผมกับมาร์คต้องเป็นอย่างนั้นด้วยป่ะ? คิดแล้วก็เขินแฮะ -/////-
ว่าแต่หน้าตาหมอนี่มันเป็นยังไงฟะ?
หันไปมองมาร์คก็เห็นกำลังนั่งสไลด์ไอโฟนเล่นสบายใจ ตาสวยเงยมามองผมเหมือนจะถามว่า
มีอะไร?
“นายไม่อึดอัดรึไงปิดหน้าปิดตาแบบนั้นน่ะ”
“ไม่...”
...ตอบอย่างนี้กูไปไม่ถูกเลยครับ
เออ ก็ได้กูไม่ดูหน้ามึงก็ได้ ชิชิชิ...
+------------------------+
SNH +------------------------+
หลังจากนั้นมาร์คก็เดินมาส่งผมที่ห้องเพราะพวกเงาจันทร์มันยังตามผมไม่หยุด
แถมเพิ่งได้คำอธิบายจากยูคยอมด้วยว่าที่วันนี้พวกเงาจันทร์มันออกอาละวาดเยอะเพราะคืนนี้เป็นคืนเดือนดับ
...เออ
กูผิดที่หิวเต้าฮวยตอนคืนเดือนดับสินะ ครั้งหน้ากูจะหิวตอนคืนเดือนเพ็ญนะครับ...
“นี่มาร์ค”ผมเอ่ยเรียกคนตัวสูงตอนที่เขากำลังจะเดินกลับไป
“พวกที่โดนเงากินจะเป็นยังไง?”
ผมแค่สงสัย
เจบีไม่อธิบายให้ผมฟังนี่นา
“คนที่โดนพรากทั้งความฝัน
ความหวัง ความสุขในชีวิตจะเหลืออะไรล่ะ”
ผมสะอึกนิดหน่อยตอนมาร์คพูดแบบนั้นทั้งที่ดวงตาของเขาว่างเปล่า
“คนที่ไร้ความสุขในชีวิต
ไม่ช้าพวกนั้นก็จะตรอมใจตายหรือไม่ก็เลือกจบชีวิตลง...ด้วยตัวเอง”
“ฆ่าตัวตายเหรอ?”
“...”มาร์คไม่ตอบแต่ว่าผมว่าผมรู้นะ...
มาร์คกลับไปแล้ว
ผมทรุดนั่งลงบนปลายเตียง
เหม่อมองไปนอกหน้าต่างที่แสดงให้เห็นภาพเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยสีสันยามราตรี
ผมไม่เคยคิดว่าท่ามกลางแสงสีที่เปล่งประกายเหล่านั้นจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ใต้ความสวยงามนั้นด้วย
พวกเงาจันทร์ที่เกิดจากความคิดด้านลบของมนุษย์
เลือกที่จะกินความสุขเพราะมันมีแต่ความทุกข์รึเปล่านะ?
ผมว่ามนุษย์ทุกคนมีสุขและทุกข์ปนกันไป
ไม่เคยคิดหรอกเรื่องที่คนๆหนึ่งจะมีสุขไปทั้งหมด หรือมีทุกข์ไปทั้งหมด
คนมีความสุขยังไงก็ต้องมีปัญหา คนมีความทุกข์ยังไงก็ต้องมีความหวังกันอยู่บ้าง
แล้วถ้าพวกเงาจันทร์มันดูดความหวังนั้นไป คนพวกนั้นก็คงเหมือนตกอยู่ในนรกทั้งเป็น
และคงไม่แปลกที่คนซึ่งไม่สามารถมีความสุข ความหวัง
ความฝันได้อีกจะเลือกจบชีวิตด้วยตัวเอง…
...ผมว่ามันน่าเศร้ามากนะ
จบความทุกข์ด้วยการจบชีวิตตัวเองได้ก็จริง
แต่ความทุกข์นั้นกลับย้ายสสารไปอยู่กับคนรอบข้างแทน
แล้วตอนไหนความทุกข์นั้นจะหมดล่ะ?...
...ผมยอมอยู่เป็นพวกไร้ความสุขดีกว่าเลือกจบชีวิตแล้วดีดความทุกข์นั้นให้คนอื่นอ่ะนะ...
คิดอะไรเพลินๆ
รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว ผมได้แต่นั่งอ้าปากหวอมองพระอาทิตย์ที่ยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้า
หันกลับไปมองนาฬิกาตีบอกเวลาหกโมงเช้าเป๊ะ
“กูยังไม่ได้นอนเลยยยยยยยยยยยยยยยยย”
กรีดร้องเสร็จก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
นอนก็ไม่ทันแล้วด้วย สุดท้ายก็อาบน้ำแต่งตัวไถเสก็ตบอร์ดไปทั้งอย่างนั้นนั่นแหล่ะ
ไปนอนเอาที่โรงเรียนก็ได้ฟะ!!
ความผิดพวกนั้นแหล่ะ
ความผิดไอ้พวก SNH เลยยยยย
+------------------------+
SNH +------------------------+
“เป็นอะไรวะแจ๊คสัน
วันนี้มึงดูง่วงๆนะ เมื่อคืนโต้เกมดึกรึไงมึง”พีเนียล
เพื่อนสนิทในคณะตบบ่าผมปุๆตอนมันเดินผ่านหลังไปนั่งเก้าอี้ข้างๆก่อนอาจารย์จะเริ่มบรรยาย
“ไม่ว่ะ
มีเรื่องให้กูคิดนิดหน่อย รู้ตัวอีกทีแม่งพระอาทิตย์ส่องหน้ากูแล้ว ง่วงชิบ”
“เออๆ
ง่วงก็นอน อาจารย์วิชานี้แกไม่โหดอยู่แล้ว...”ผมฟังมันพูดแค่นั้นแล้วก็หลับไปเลย
รู้ตัวอีกทีก็ตอนมันปลุกแล้วบอกว่าหมดคาบแล้วนั่นแหล่ะครับ
“หาววววว”
“หาวปิดปากมั่งเหอะมึง
เดือนคณะนะเดือนคณะ รักษามาดหน่อยดิวะ”พีเนียลมันเตือนผมยิกๆเหมือนแม่สอนมรรยาทลูกเลย
ปกติผมจะตบหัวมันกลับแล้วบ่นใส่หูมันแล้ว แต่วันนี้ง่วงครับเหนื่อยด้วย
สงสัยไอ้ที่วิ่งหนีซอมบี้เงาด้วยความเร็วสามคูร้อยเมื่อคืนจะเริ่มเล่นงาน
“ช่างเดือนช่างดาวอะไรนั่นเหอะ
เดือนคณะวิทยาศาสตร์จะไปสู้เดือนแพทย์ได้ไงวะ เห็นสาวๆแม่งกรี๊ดกันจัง”
“ปากมึงศักดิ์สิทธิ์ไปนะ
นั่นมาร์คเดินมานู่นแล้ว”พีเนียลพูดแล้วพยักพเยิดหน้าให้ผมดูใครบางคนที่มาพร้อมเสียงกรี๊ดของสาวๆลั่นทางเดิน
ผมหยุดมองดูร่างสูงของใครบางคนที่คุ้นตาแปลกๆ เหมือยเคยเห็นที่ไหน?...
“เห้ยๆ
เดินมานี่ด้วยว่ะ มาหาใครรึเปล่าวะ”
ยิ่งเดินมาใกล้ยิ่งชัด
รูปร่างแบบนี้ตาแบบนี้ รึว่าจะ...
“เจียเอ่อ”
เสียงทุ้มๆแบบนี้
โป๊ะเช๊ะเด๊ะ!
“มะ
มาร์ค?”ผมทักออกไปแบบไม่ค่อยแน่ใจ เฮ้ย มาร์คหล่อขนาดนี้เลยเหรอวะ?
ใครก็ได้บอกกูทีว่าไอ้หน้าโคตรหล่อตรงหน้านี่ไม่ใช่ไอ้โม่งดำคนเมื่อคืน
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดนักศึกษาถูกระเบียบเป๊ะ
ใบหน้าหล่อกะเดียดไปทางสวยน่ามอง ดวงตากลมดำคลับ ริมฝีปากแดงอิ่มได้รูปโดดเด่นบนผิวขาวๆเหมือนไม่เคยเจอแสง
บอกเลยว่าถ้าผมตาไม่ฝาด ผมเห็นมาร์คเรืองแสงได้ตอนอยู่ท่ามกลางแสงแดด ออร่าเทพสุดๆ
แต่หวังรับไม่ได้ว่ะ! หล่อกว่ากูอีกอ่ะ!!!
มาร์คพยักหน้ายืนยันว่าเขาคือมาร์คเล่นเอาแจ๊คสันอ้าปากค้าง
อะไรอ่ะ แม่จ๋า ทำไมยังมีคนหน้าตาดีแบบนี้อยู่บนโลก หวังไม่ยอม หวังไม่ย๊อม~~~~
“ฉันจะรอนายอยู่ที่คลับ...แต่ถ้ามีเรื่องอะไร
รีบเรียกชื่อฉัน”
“หะ หา?”
มาร์คพูดแค่นั้นแล้วเดินกลับไปทางเดินพร้อมเสียงกรี๊ดระงมของพวกสาวๆ
ทิ้งแจ๊คสันให้ยืนงงเต๊กอยู่ตรงนั้นด้วยความไม่เข้าใจว่า...
...มึงเดินข้ามคณะเป็นกิโลมาบอกกูหนึ่งประโยคถ้วนแค่นี้อ่ะนะ!!!...
+------------------------+
SNH +------------------------+
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น