[SNH] INTRO
เบื้องหลังเงาของจันทราอาจมีบางอย่างจับจ้องคุณอยู่
คุณเคยมีช่วงเวลาที่เลวร้ายจนแทบหาทางรอดไม่เจอบ้างไหม?
ผมกำลังถูกตามล่า…
จากอะไร ‘บางอย่าง’ ที่ไม่ใช่คน...
“แฮ่กๆ”ลมแห้งๆที่พ่นออกจากปาก
ช่วงปอดที่ปวดร้าวบอกให้ผมหยุดวิ่งได้แล้ว แต่สมองและสายตาที่ยังมองเห็น ‘พวกมัน’ ที่ยังไล่กวดมาจากด้านหลัง
ทำให้ผมตัดสินใจฝืนร่างกายที่เริ่มจะโงนเงนให้ออกวิ่งต่อไป
คลองสายตาของผมฉายให้เห็นถึงตรอกซอกซอยเล็กๆที่ไร้ความสนใจในเมืองใหญ่แสนศิวิไลซ์แต่เพียงเปลือกนอก
ใครจะรู้ว่าภายในแสงสว่างบนถนนใหญ่นั่นจะมีอะไรที่ไม่คิดฝันอย่างไอ้ตัวข้างหลังผมบ้าง!!!
ผมเหลือบไปมองพวกมันอีกครั้ง
รีบสะบัดหน้ากลับมาเพราะทนดูความสยดสยองนั่นต่อไปไม่ได้
ร่างที่น่าจะเป็นมนุษย์แต่กลับมีท่าทีผิดแผกไปจากคนปกติ
ลำแขนลำขาที่บิดเบี้ยวไม่เป็นทรง
ผิวสีเขียวซีดบ้างเหวอะหวะจนเห็นเนื้อแดงและกระดูกขาว ดวงตาลึกโบ๋
แถมมากันเป็นฝูงจนน่าสยดสยอง ถ้าเรียกตามหนังฝรั่งก็จัดอยู่ในพวกที่เรียกว่า ‘ซอมบี้’ สินะ ปกติมันต้องเดินช้าๆแบบวิ่งหนียังไงก็รอดสิวะ
แต่ซอมบี้ที่ตามผมมานี่มันติดจรวดไอพ่นรึไง แม่ง!
เร็วยิ่งกว่าสามจีเมืองไทย
ผมแทบสิ้นสติเมื่อเห็นว่าทางที่ตัดสินใจเลี้ยวเข้ามาล่าสุดเป็นทางตัน
“ไอ้__บหาย!”ผมตะโกนลั่น
มองด้านหลังตัวเองที่ยังไม่เห็นพวกซอมบี้บ้านั่นแต่เสียงของพวกมันก็ไม่ทำให้อุ่นใจขึ้นสักนิด
…นี่ผมต้องมาสิ้นชื่อนักกีฬาดาบทีบชาติที่นี่เนี่ยนะ!!!...
“จับมือฉัน
เร็ว!”
เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนที่ผมเห็นหน้าไม่ชัดแถมโผล่มาจากไหนไม่รู้ดังขึ้น
พร้อมมือที่ยื่นออกมาให้ผมจับ
“คุณเป็นใครน่ะ?”
“จับมือ!”
เขาไม่ตอบแต่กลับเร่งรัดด้วยเสียงโทนต่ำนั่น
เสียงคำรามของพวกมันที่ใกล้เข้ามาทำให้ผมไม่มีทางเลือกรีบคว้ามือของคนแปลกหน้านั้นไว้
ทันทีที่มือของพวกเราสัมผัสกันร่างของผมก็เหมือนถูกสูบอะไรบางอย่างออกไป
วูบเดียวเท่านั้นก่อนที่ผมจะกรีดร้องลั่นเมื่อเขาพาผมเหาะ...............ใช่
คุณฟังไม่ผิดหรอก
ไอ้อาการที่เท้าลอยจากพื้นด้วยความเร็วมากกว่าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงจากพื้นแบบนี้จะให้เรียกว่าอะไรล่ะครับ!!!
“แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“เงียบหน่อยได้ไหม”เสียงทุ้มนั่นเตือนผม
ดวงตาสีดำขลับมองผมเจือด้วยความรำคาญนิดหน่อย
ผมถึงได้รู้ตัวว่าตอนนี้ได้มายืนอยู่บนดาดฟ้าตรงทางตันนั่นแล้ว
หันไปมองด้านล่างก็เห็นพวกซอมบี้นั่นตามมาไม่ไกล พวกมันคงไม่ได้เรียนวัดเส้าหลินแบบเกาะกำแพงตามมาถึงนี่หรอกนะ...
...........โอเค
สงสัยพวกมันคงเรียนมาจริงๆ............ แม่ง ใช่แค่เกาะกำแพงด้วย
นี่พวกมึงกระโดดขึ้นมาเลยเรอะ!!!!
“แว้กกกกกกก!!!”
“บอกว่าอย่าร้อง”เขาดุขึ้นมาอีก
“จะให้ร้องได้ยังไง
หนีสิหนี ยืนให้มันมาคาบหัวรึไงเล่า!”
โอเค...ผมยอมรับว่าผมสติแตกไปแล้ว
จับมือคนแปลกหน้าแล้วลากให้วิ่งไปด้วยกัน แต่หมอนี้ตัวหนักเหมือนหินเลย
ลากยังไงก็ไม่ไป
“นายน่ะ
อยู่เงียบๆก็พอ”เขาพูดแค่นั้นก่อนดันผมไปด้านหลังตัวเอง ไอ้ผมก็งงสิ
หมอนี่มันจะทำอะไรฟะ? แต่จากการแต่งตัวไม่น่าจะธรรมดานะ ดำทั้งตัวเชียว
หน้าตาก็ปิดซะมิด โทษนะครับคุณพี่ นี่แบงค์คอกเมืองไทย ร้อนขนาดน้องๆซาวน่า
ถึงนี่จะค่ำแล้วแต่ใช่ว่าจะเย็น ทนใส่ได้ไงวะนั่น
กริ๊ก! เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นเบาๆ
ก่อนที่ใบมีดคมคล้ายดาบจะเด้งออกมาจากแขนทั้งสองข้าง
...นี่มึงเป็นทายาทวูฟเวอร์รีนใช่หมายยยย
เท่ชิบหายเลยคุณเพ่...
สายตาคมๆนั่นหันมามองผมเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรเสียอย่างนั้นน่ะ
...เออ
กูเงียบก็ได้ เชิญท่านทัศนาการต่อสู้ได้แล้วครับ หวังจะไม่พล่ามแล้ว...(ดีมากหวัง)
หลังจากหันไปมองเด็กขี้พล่ามให้หยุดมองเขาด้วยสายตาแปลกๆได้แล้วก็ถึงเวลาถึงงานหลัก
ตาคมมองกลุ่มซอมบี้ข้างหน้าประเมินสถานการณ์
...สิบกว่าๆ
เยอะ แต่ไหว...
กร๊าซซซ
จู่ๆเสียงคำรามก็ดังขึ้นมาจากบนศีรษะเขาราวป่าวประกาศสงคราม
ได้ยินเสียงเด็กนั่นร้องเตือนว่า ‘ข้างบน’
เขายันเท้าด้านขวากระโดดสูงตวัดขาเตะก้านคอไอ้ตัวคิดแทงข้างหลัง
ได้ยินเสียงกระดูกคอดักเป๊าะ แรงเตะดันร่างนั้นกระแทกพื้นดังลั่น
...แปลก...คิดแค่นั้นก่อนจะจัดการฟันคอไอ้ซอมบี้สองตัวที่เสือกเข้ามาในระยะฟันพอดี
พุ่งตัวไปจัดการอีกสามตัวด้านซ้าย ก่อนยันเท้ากระโดดตีลังกาไปสอยสองตัวด้านขวา
ทั้งหมดนี้เขาจัดการภายในสามนาที
...เหลืออีกสามตัว...คิดคำนวณในใจคร่าวๆ
เหลือบมองเป้าหายกระโดดขาคู่เตะไอ้ซากสองตัวที่เพิ่งจะปีนขึ้นมาถึงให้ตกลงไปดังเป็นซากด้านล่าง
หันไปมองซากรอบๆก็ต้องขมวดคิ้ว
“หายไปตัวหนึ่ง...รึว่า! เจียเอ่อ หลบ!”
“หา?...”เจ้าเด็กนั่นขานรับงงๆไม่ได้รับรู้เลยว่ามีไอ้ตัวซากน้ำลายยืดกำลังจะตะครุบตัวเองอยู่ด้านหลัง
...ไม่ทันแล้ว!
หลบดิวะ!...
ปัง! เสียงมัจจุราชสีเงินพุ่งผ่านเจาะกะโหลกซอมบี้ตัวนั้นได้อย่างเฉียดฉิว
เด็กหนุ่มที่เกือบไม่รอดสะดุ้งเฮือก หันไปมองด้านหลังแล้วกรีดร้องลั่นตามเสต๊ปเดิม
ตาคมหันไปมองคนช่วยที่นั่งควงปืนสีเงินทำเท่อยู่บนหลังคาบ้านข้างตึกที่พวกเขายืนอยู่
“เจ้าเด็กนั่นน่ะ
เงียบสักพักไม่ได้รึไง
ชาวบ้านชาวช่องตื่นขึ้นมาดูพวกฉันจะแย่นะ”คนมาใหม่เอ่ยกับเด็กหนุ่มที่ยังดิ้นเร่าๆไม่หยุด
มองร่างเตี้ยๆนั่นอย่างนึกขำ แล้วหันไปพยักหน้ากับร่างที่ยืนมองเขาอยู่ก่อนแล้ว
“ทางใต้จินยองเก็บหมดแล้ว
ทางเหนือ กับตะวันตกก็ไม่น่าห่วง”
“...”คนฟังพยักหน้าเข้าใจไม่หือไม่อือ
“เฮ้
พวกนายน่ะ”จู่ๆคนนอกสนทนาก็เรียกพวกเขาให้หันไปมองพร้อมกัน
...ปัญหาคือเด็กนี่นี่แหล่ะ...
“นายจะทำยังไง
ให้ลบความทรงจำไหม?”ถามคนที่ยังยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่เงียบๆ
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีคำตอบออกมา เขาเลยกระโดดลงมาจากกำแพงหยิบอะไรบางอย่างที่มีรูปร่างเหมือนปากกาแท่งโตออกจากกระเป๋าเสื้อหนัง
จับบ่าเด็กหนุ่มที่ยืนมองเขางงๆ
กำลังจะกดปุ่มลบความทรงจำแต่ก็มีเสียงเรียกหยุดเอาไว้ก่อน
“เจบี”
“ว่า...?”
“ฉันว่าเจียเอ่ออาจเป็นพวกเรา...”ประโยคจากคนไม่ค่อยพูดเรียกเอาเจบีเผลออุทานออกมาเสียงดัง
“หา!? เจียเอ่อ? หมอนี่เหรอ?”
“พวกมันระดับสองตามกลิ่นเขามา
แล้วก็ตอนจับมือเขา เจียเอ่อให้พลังฉันได้”เจบีตกตะลึงไปพักใหญ่จากคำบอกเล่าของเพื่อน
“งั้นหมอนี่ก็เป็นคู่นาย?”
“...อาจใช่”
“นี่พวกนายพูดอะไรกันวะ
ฉันไม่รู้เรื่อง อธิบายให้เข้าใจด้วยดิ
ฉันเพิ่งถูกซอมบี้ตามล่ามานะ แล้วพวกนายเป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ยหา!
องค์กรล่าซอมบี้งี้เหรอ?”เด็กหนุ่มที่อดรนทนความอยากรู้ไม่ไหวระเบิดคำพูดออกมาหลังจากทนดูเหตุการณ์ชวนงงมานาน
ก่อนหุบปากเงียบเมื่อสายตาคมสองคู่ตะวันมามองเขา
...กูจะโดนฆ่าเพราะปากไหม...
“ฉันจะอธิบายให้นายฟังจนนายแจ้งในรสธรรมเลยล่ะ
แต่ก่อนหน้านั้นนายต้องไปกับเรา หวัง เจียเอ่อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น